สกศ. - โรงเรียนเทศบาล 7 รถไฟสงเคราะห์ แลกเปลี่ยนไอเดีย พัฒนาระบบฐานข้อมูลพหุปัญญาแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษามอบหมาย ดร.ช่อบุญ จิรานุภาพ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา พร้อมด้วย ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการจัดการศึกษาเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลพหุปัญญาแห่งชาติ และการติดตามประเมินผลการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมศักยภาพตามพหุปัญญา โดยมี นายสหัช นุ่มวงศ์ รองนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี นางกนกอร ไชยกูล ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี นางธนพร แก้วชารุณ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 7 รถไฟสงเคราะห์ จังหวัดอุดรธานี คณะผู้บริหาร และคุณครูให้การต้อนรับ ณ โรงเรียนเทศบาล 7 รถไฟสงเคราะห์ จังหวัดอุดรธานี
ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรของโรงเรียนเทศบาล 7 รถไฟสงเคราะห์ จังหวัดอุดรธานี ร่วมให้ข้อมูลและประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนที่ส่งเสริมศักยภาพตามพหุปัญญา ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่รูปแบบการจัดการเรียนการสอน การออกแบบการจัดการเรียนรู้ การประเมินผล และการคัดกรองเด็กเพื่อส่งเสริมศักยภาพตามพหุปัญญา ซึ่งทางโรงเรียนมีการจัดการเรียนการสอนในด้านพหุปัญญาที่หลากหลาย โดยผ่านกระบวนการ คัดกรอง สังเกต สอบถาม จัดกิจกรรมส่งเสริมตามความสนใจ และความถนัดในการเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับนักเรียนทุกระดับตามศักยภาพอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ โรงเรียนยังได้จัดการศึกษาภายใต้นโยบาย “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งความเป็นเลิศด้านศิลปะ” ของเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมกับการส่งเสริมและพัฒนาห้องเรียนความเป็นเลิศในสาขาวิชาวิทย์-คณิต ภาษา ดนตรี กีฬา และทักษะชีวิต โดยมีการคัดเลือกหลักสูตรที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตจริงและสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ รวมถึงการจัดการศึกษาตามความสนใจของผู้เรียนและผู้ปกครอง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนสอดคล้องกับแนวคิดในการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญาอย่างรอบด้าน
ทั้งนี้ จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อการพัฒนาระบบฐานข้อมูลพหุปัญญาแห่งชาติ สำหรับการติดตามประเมินผลตลอดจนการจัดการเรียนรู้ของครูที่ส่งเสริมศักยภาพตามพหุปัญญา ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการคัดกรอง การออกแบบการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและผู้ปกครอง รวมถึงการส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนตามพหุปัญญา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาระบบดังกล่าว ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป

