วันนี้ (๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวตรีนุช เทียนทอง) มอบหมายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) ทำหน้าที่ประธานการประชุมสภาการศึกษา (กกส.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ โดยเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.อรรถพล สังขวาสี) พร้อมคณะผู้บริหาร สกศ. ผู้แทนองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กรรมการสภาการศึกษา และผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมประชุมภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ณ ห้องกำแหง พลางกูร ชั้น ๓ อาคาร ๕๖ ปี สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม Cisco WebEx ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID - 19)
 

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาวาระสำคัญ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมายด้านการศึกษาหลายประเด็น อาทิ กรณีบุคคลต่างด้าวขอยื่นจัดการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว (Home School) กฎหมายแห่งกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิของสถานประกอบการในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. ๒๕๔๗ และกฎหมายแห่งกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. ๒๕๕๕ 

กกส. ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนหน่วยงาน ศธ. ได้แสดงข้อคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้เรียนและสิทธิการเข้าถึงการศึกษาบนพื้นฐานการดำเนินงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในเบื้องต้นตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ.๒๕๔๘ ได้เปิดโอกาสให้สามารถรับเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยเข้าศึกษาในโรงเรียนต่าง ๆ แต่ยังไม่ได้รวมกรณีโฮมสกูลซึ่งต้องหารือในรายละเอียดข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับกรณีองค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนเข้าร่วมจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสามารถกระทำได้ โดยต้องสอดคล้องกับอำนาจทางกฎหมายที่อนุญาตให้เป็นศูนย์การเรียนสําหรับผู้ขาดโอกาสในการเข้าศึกษาในระบบโรงเรียนปกติ เพื่อส่งเสริมให้เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาในทุกระดับได้มากที่สุด 

ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า ได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานรับรองวิทยฐานะให้กับการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีสนามหลวงและแผนกธรรมสนามหลวง ซึ่งขณะนี้ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบข้อสรุปจากการประชุมวิชาการของ สกศ. เพื่อต่อยอดการพัฒนาการศึกษาไทยในหลายประเด็น อาทิ ผลจากการจัดประชุมเครือข่ายการศึกษาและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่มีการประชุมโต๊ะกลมผู้บริหารระดับสูง พร้อมด้วยผู้แทนหอการค้าต่างประเทศในไทย ทำให้ได้แนวทางการสร้างความร่วมมือกับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในการพัฒนากำลังคนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลแห่งอนาคต (New S-Curve Digital Industry) เพื่อยกระดับกำลังคนให้รองรับการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ทางด้าน ดร.อรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวเสริมต่อว่า สำหรับการสรรหา คณะกรรมการสภาการศึกษาชุดใหม่ ขณะนี้ได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้ว สำหรับผลการประชุมเสวนาทางวิชาการ สภาการศึกษา : เข็มทิศการศึกษา พัฒนาประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๕ ณ พระราชวังพญาไท ตอกย้ำถึงบทบาทของ สกศ. ที่ต้องเป็นผู้กำหนดเข็มทิศทางการศึกษาของประเทศ พร้อมทั้งเตรียมวางแผนพัฒนากำลังคนของประเทศ ที่เน้นการสร้างสมดุลระหว่างการผลิตกำลังคน (Supply) กับความต้องการของตลาดแรงงาน (Demand) พัฒนาแพลตฟอร์มขับเคลื่อนการดำเนินการเรื่องกำลังคนที่มีความสามารถสูงของประเทศไทย (Talent Thailand) และเตรียมบูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เพื่อกำหนดทิศทางร่วมกัน ในการพัฒนาการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบสำหรับทุกระดับการศึกษา

ภาพและข่าวเพิ่มเติม : Facebook "ข่าวสภาการศึกษา"
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=OECCHANNEL&set=a.7736823909662801