เมื่อระหว่างวันที่ ๒๙ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ ประธานคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (ศาสตราจารย์ ดร. ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์) พร้อมด้วย คณะอนุกรรมการฯ รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.พีรศักดิ์ รัตนะ) ผู้อำนวยการสำนักประเมินผลการจัดการศึกษา (นางศิริพร ศริพันธุ์) และข้าราชการ สกศ. ลงพื้นที่ประชุมระดมความคิดเห็น เรื่อง การบูรณาการความร่วมมือเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบข้อมูลสภาพความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ และการสนับสนุนด้านทรัพยากรและความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ และประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีในครั้งนี้ คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษา โดยในวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๔ (ช่วงเช้า) ลงพื้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคลองวาย อำเภอวิภาวดี
วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๔ (ช่วงบ่าย) ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร
วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๔ (ช่วงเช้า) ลงพื้นที่โรงเรียนวัดเขาพระนิ่ม อำเภอกาญจนดิษฐ์
วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๔ (ช่วงบ่าย) ณ โรงเรียนบ้านเกาะนกเภา อำเภอดอนสัก
และวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านเกาะพลวย อำเภอเกาะสมุย
ประธานคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (ศาสตราจารย์ ดร.ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์) กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้ทราบถึงสภาพความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของการจัดการศึกษาของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่บนเกาะ ซึ่งมีข้อจำกัดและปัญหาหลายประการ เช่น ในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางบนเกาะสูงกว่าบนบก ปัญหาเรื่องเวลาที่ใช้ในการเดินทาง ปัญหาเด็กลดลง ครูที่มีคุณวุฒิตรงสาขาไม่เพียงพอ แต่ขอชื่นชมโรงเรียนที่มีความเข้มแข็งพยายามช่วยเหลือตัวเอง แม้จะมีข้อกำกัดเรื่องงบประมาณแต่พยายามหารายได้ด้วยตัวเอง และแสวงหาความร่วมมือกับองค์กรปกครองท้องถิ่น จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่าชื่นชม เด็กมีคุณภาพในการเรียนที่ดี
สิ่งที่คณะอนุกรรมการฯ อยากเห็น คือเรื่องการมีฐานข้อมูลที่แม่นตรง อยากเห็นพัฒนาการจัดเก็บข้อมูลเด็กที่เป็นระบบเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาประเมินสภาพปัญหาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้นหากทำลดปัญหาความเหลื่อมล้ำจะต้องมีฐานข้อมูลที่ดี มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีหลายประเด็นที่น่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยน เช่น การจัดสรรงบประมาณแบบเหมาโหลซึ่งไม่เหมาะสมเพราะแต่ละพื้นที่มีบริบทแตกต่างกัน ถ้าเป็นไปได้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการจัดสรรงบประมาณ การจัดสรรกำลังคนที่ไม่อิงกติกาแบบเหมาโหลจนเกินไป
หลังจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะลงพื้นที่ภาคกลางเพื่อเก็บและรวบรวมข้อมูลสภาพความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เสนอต่อกรรมการสภาการศึกษา อันจะนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายต่อไป