สกศ. ระดมความคิดเห็นสถานศึกษาภาคเหนือ เร่งจัดทำข้อเสนอแนวทางการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา

image

 

 

เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานการประชุมระดมความคิดเห็น เรื่อง "แนวทางการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทและความต้องการจำเป็นของสถานศึกษา" ณ โรงแรมเชียงใหม่ ออคิด  จ.เชียงใหม่

 


ดร.สมศักดิ์  ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า สถานศึกษาต้องมุ่งจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อ “สร้างความเชื่อมั่น” ให้กับผู้รับบริการ โดยผ่านระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาที่ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาเป็นสำคัญ และสถานศึกษาซึ่งเป็นผู้ที่เข้าใจสภาพปัจจุบันและปัญหาของตนมากที่สุด เป็นผู้จัดทำมาตรฐานสถานศึกษาของตนเอง รวมทั้งต้องมีความพร้อมที่จะรับการประเมินตลอดเวลา เนื่องจากต้องการให้การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของสถานศึกษาเป็นงานที่ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ดำเนินการเพื่อรอรับการประเมินดังที่ผ่านมา 

 



การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลสภาพปัจจุบันและปัญหาการดำเนินงานของสถานศึกษาในประเด็นการประกันคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็นการดำเนินงานเพื่อติดตามตัวชี้วัดของแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙  ที่ระบุว่า “มีระบบประกันคุณภาพการศึกษาที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบท และความต้องการจำเป็นของสถานศึกษา” โดยในช่วงเช้าได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมนำเสนอแนวทางการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาในภาพรวมและของแต่ละหน่วยงาน ได้แก่ ดร.ชัยพฤกษ์  เสรีรักษ์  ดร.ไพรวัลย์  พิทักษ์สาลี ดร.สมพร ชูทอง ดร.วรวิชช  ภาสาวสุวัศ และ ดร. อุทัย  ปัญญาโกญ  และในช่วงบ่าย มีการแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมตามสังกัด เพื่อระดมความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ  อาทิ ความสำเร็จ และปัญหา/อุปสรรคของการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓ และกฎกระทรวงการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหา สาระสำคัญ แนวทางการดำเนินงาน และบทบาทของสถานศึกษาตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑  รวมทั้งปัจจัยความสำเร็จหรือประเด็นที่สถานศึกษาต้องการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานส่วนกลาง

 


ข้อความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมในครั้งนี้ เช่น กฎกระทรวงฉบับใหม่ช่วยลดภาระของสถานศึกษาในการเตรียมเอกสารประกอบการประเมิน แต่สถานศึกษายังมีความกังวลและมีความเข้าใจที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดทำมาตรฐานสถานศึกษา แผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา และรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ซึ่งสิ่งที่สถานศึกษาต้องการคือแนวทางการจัดทำเอกสารดังกล่าว รวมทั้งวิธีการดึงจุดเด่นหรือบริบทที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา และการกำหนดเกณฑ์การประเมินตนเองที่ตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอย่างแท้จริง โดยส่วนใหญ่สถานศึกษาทุกสังกัดมีความพึงพอใจที่กฎกระทรวงฯ พ.ศ. ๒๕๖๑ มีจำนวนมาตรฐานน้อยลง จาก ๘ มาตรฐาน เหลือเพียง ๓ มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม มีความต้องการให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือศึกษานิเทศก์ของแต่ละสังกัดเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แนะนำแนวทางการดำเนินงานให้มากขึ้น ในขณะที่สถานศึกษาในสังกัด อปท.ค่อนข้างมีความพร้อมและได้รับคำแนะนำและการดูแลช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต้นสังกัด และมีความเห็นว่ากฎกระทรวงฉบับใหม่มีความยืดหยุ่น เปิดโอกาสให้สถานศึกษาได้พัฒนาคุณภาพตามบริบทที่แตกต่างกันของแต่ละสถานศึกษา จึงมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานค่อนข้างมาก

 


สำหรับการดำเนินงานต่อไป สกศ.จะลงพื้นที่ระดมความคิดเห็นในพื้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามลำดับ เพื่อสรุปข้อคิดเห็นจากสถานศึกษาและจัดทำเป็นข้อเสนอแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาที่เหมาะสม สอดคล้องกับ บริบทและความต้องการจำเป็นของสถานศึกษาต่อไป

image

ภารกิจ ผู้บริหาร ดูทั้งหมด

image

ข่าว สกศ. ดูทั้งหมด