ประชุมสภาการศึกษา นัดที่ ๒/๒๕๖๒ หารือเร่งปรับโครงสร้างฯ

วันนี้ (๒๕ เมษายน ๒๕๖๒) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์อุดม คชินทร) เป็นประธานการประชุมสภาการศึกษา ครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ โดยเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สุภัทร จำปาทอง) คณะกรรมการสภาการศึกษา (กกส.) พร้อมผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และคณะทำงาน กกส. ร่วมประชุม ณ ห้องกำแหง พลางกูร ชั้น ๓ อาคาร ๕๖ ปี สกศ.
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการยืนยันต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความสำคัญการผลักดันพระราชบัญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ทั้งนี้ นำเรียนนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งมีการหารือถึงรูปแบบพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่ง สกศ. จะเป็นหน่วยงานแรกที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะต้องเปลี่ยนเป็น "คณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ" และ กกส. ต้องยุบเลิกไปตามที่กฎหมายบัญญัติ และต้องขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลใหม่ที่กำลังเตรียมจัดตั้งขณะนี้อาจต้องใช้เวลาประมาณ ๕-๖ เดือน










ที่ประชุมได้หารืออย่างกว้างขวางถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนงานการศึกษาชาติในหลายประเด็น โดยมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กกส. แทนกรรมการที่ลาออกก่อนครบวาระ จำนวน ๒ ท่าน คือ ๑) ศาสตราจารย์ดิเรก ปัทมสิริรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ธุรกิจ และการบริการ และ ๒) ศาสตราจารย์อำนาจ วงศ์บัณฑิต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้พิจารณาโครงสร้างภารกิจของ สกศ. รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามที่มีการบัญญัติมาตรา ๘๒ แห่งร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ" ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ โดยเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ ของคณะกรรมการนโยบายฯ พร้อมบัญญัติหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการนโยบายฯ เป็นไปตามมาตรา ๘๗ อีกทั้งบทเฉพาะกาลในมาตรา ๙๒ ของร่างกฎหมายดังกล่าว โดยสรุปกำหนดให้ สกศ. ทำหน้าที่เป็นสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ อีกทั้ง สกศ. ยังต้องขับเคลื่อนงานด้านปฐมวัย ตามที่บัญญัติในมาตรา ๙ แห่งร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. .... กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายฯ เป็นกรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการฯ ที่มีภารกิจสำคัญคือ การจัดทำนโยบายระดับชาติด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) และแผนการปฏิรูปประเทศ และให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาเด็กปฐมวัยเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ตลอดจนการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติลงไปถึงหน่วยงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับปรุงโครงสร้าง สกศ. รองรับพันธกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นอย่างเหมาะสม และเร่งพัฒนาสมรรถนะข้าราชการ พร้อมพิจารณาแผนงาน/โครงการตามบทบาทภารกิจของ สกศ. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓












ที่ประชุมได้รับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของคณะอนุ กกส.ฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๒ ทั้ง ๑๐ คณะ ประกอบด้วย
๑) อนุ กกส.ด้านนโยบายการศึกษาและกลไกการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติ (พลเอก พหล สง่าเนตร ประธานฯ) มีการแต่งตั้ง ๒ คณะทำงานคือ คณะที่ ๑ การศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ และ คณะที่ ๒ การศึกษาเพื่อเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านและลงพื้นที่ของทั้ง ๒ คณะ ได้จัดทำข้อสรุปเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย ๒ เรื่อง ๑) ร่างข้อเสนอนโยบายการศึกษาเพื่อความมั่นคง เรื่อง การศึกษาเพื่อสร้าง "พลเมืองที่เข้มแข็ง" เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชี่ยวชาญตามความถนัดของตน มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ และ ๒) ร่างข้อเสนอการศึกษาเพื่อเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้
๒) อนุ กกส.ด้านระบบฐานข้อมูลและตัวชี้วัด (นายอรรถการ ตฤษณารังสี ประธานฯ) อยู่ระหว่างดำเนินการวิเคราะห์จัดทำแผนระบบสารสนเทศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานที่ศูนย์ข้อมูลการศึกษา ศธ. ได้จัดเก็บเพื่อจัดทำตัวชี้วัดสำหรับการตอบโจทย์ของอนุฯ และตัวชี้วัดตามแผนต่าง ๆ
๓) อนุ กกส.ด้านระบบทรัพยากรและการเงินเพื่อการศึกษา (นายเกียรติชัย โสภาเสถียรพงศ์ ประธานฯ) มีผลงานดำเนินงานสำคัญคือ การจัดทำข้อเสนอโครงการวิจัย (TOR) เพื่อศึกษาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบทรัพยากรและการเงินเพื่อการศึกษา การศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรและการเงินเพื่อการศึกษา และการจัดทำแผนและกิจกรรมการดำเนินงานคณะอนุฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๒
๔) อนุ กกส.ด้านมาตรฐานการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ (ศาสตราจารย์สุพจน์ หารหนองบัว ประธานฯ) ผู้แทนคณะอนุฯ ได้เข้าร่วมสัมมนาวิชาการ เรื่อง มาตรฐานการศึกษาเพื่อการพัฒนาคนไทย ๔.๐ ใน ๔ ภูมิภาค ๖ จังหวัด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ๒๕๖๒ ซึ่งได้สร้างผลลัพธ์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการจัดการศึกษา เกิดความเข้าใจในการนำมาตรฐานการศึกษาของชาติสู่การปฏิบัติที่สอดคล้องเชื่อมโยงกับมาตรฐานต้นสังกัดและมาตรฐานสถานศึกษาทุกสังกัด ทุกระดับ และประเภทการศึกษา รวมทั้งมีความเข้าใจแนวทางปฏิบัติใหม่เกี่ยวกับระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาตามกฏกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ....
๕) อนุ กกส.ด้านการประเมินผลการศึกษา (ศาสตราจารย์กิตติคุณสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานฯ) ดำเนินการพิจารณาเสนอความเห็นและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการประเมินผลการศึกษา จำนวน ๔ เรื่อง ประกอบด้วย ๑.แนวทางการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษา ๒.แนวทางการประเมินผลการศึกษาทั้งระบบให้มีความสอดคล้องทุกระดับการศึกษา ๓.ยกร่างแผนการประเมินผลการศึกษา และ ๔.การจัดตั้งศูนย์สถิติการศึกษาแห่งชาติ ที่มีผลการดำเนินงานก้าวหน้าตามลำดับ
๖) อนุ กกส.ด้านกฎหมายการศึกษา (ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ ประธานฯ) มีการจัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อรับฟังความคิดเห็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๔ ฉบับ ๑.กฎกระทรวงว่าก้วยสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโยครอบครัว พ.ศ. ๒๕๔๗ ๒.กฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิของบุคคลในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. ๒๕๕๔ ๓.กฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรวิชาชีพในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. ๒๕๕๔ และ ๔.กฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. ๒๕๕๔ และอยู่ระหว่างเตรียมแผนการเพื่อขับเคลื่อนการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง เมื่อร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... มีผลบังคับใช้








๗) อนุ กกส.ด้านการวิจัยการศึกษา (นายอุทัย ดุลยเกษม ประธานฯ) ดำเนินการรวบรวมข้อมูลจากการลงพื้นที่ศึกษาวิจัย Research Agenda ด้านการศึกษา และได้ผลลัพธ์ประเด็นการวิจัยที่มีความหลากหลายรอบด้าน เช่น การกระจายอำนาจการจัดการศึกษาด้วยการถ่ายโอนสถานศึกษาจาก ศธ. ไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะสามารถพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้นได้จริงภายใต้เงื่อนไขสำคัญอะไรบ้าง การเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเอกชนเข้ามมีส่วนร่วมในการสนับสนุนและการบริหารจัดการด้านการศึกษาในระดับสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถพัฒนาคุณภาพการศึกาาได้จริงอยู่ภายใต้เงื่อนไขหลักอะไรบ้าง ฯลฯ เป็นต้น
๘) อนุ กกส.ด้านบทบาทของภาคประชาสังคมเพื่อการศึกษา (นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานฯ) มีการจัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความหลากหลาย จำนวน ๖ ครั้ง ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ โดยได้สรุปสาระจากการรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มภาคีเพื่อการศึกษาไทย (TEP) และเครือข่ายบ้านเรียน (Home School) จัดทำข้อเสนอของเครือข่ายบ้านเรือนและเครือข่ายเยาวชน เพื่อนำข้อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ กกส. และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลดำเนินการ ศึกษา วิเคราะห์ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมต่อการจัดการศึกษา เครือข่ายของการศึกษา พร้อมขับเคลื่อนแผนดำเนินงานรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาสังคมกลุ่มต่าง ๆ ต่อไป
๙) อนุ กกส.ด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม กีฬา และภูมิปัญญา (ดร.จรวยพร ธรณินทร์ ประธานฯ) จัดทำข้อเสนอแนวทางการพัฒนาและการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการจัดการศึกษาอย่างครอบคลุมทั้งด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม กีฬา และภูมิปัญญา โดยขับเคลื่อนด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิตมากกว่าการเรียนในชั้นเรียน และเชื่อมโยงกิจการลูกเสือ ยุวกาชาด และเนตรนารี สร้างแรงบันดาลใจถึงความสำคัญของการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณชนด้วยจิตอาสา รวมทั้งการจัดทำฐานข้อมูลในรูปแบบบิ๊กดาต้า รวบรวมข้อมูลด้านกีฬา นันทนาการ ท้องเที่ยว ภูมิปัญญา วัฒนธรรมท้องถิ่น สอดรับทิศทางประเทศไทย ๔.๐
และ ๑๐) อนุ กกส.เฉพาะกิจด้านการสร้างพลเมืองดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ (พลเอก พหล สง่าเนตร ประธานฯ) ขับเคลื่อนต่อยอดการเรียนการสอนตามแนวคิด STAR STEM นำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนต้นแบบในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๒ พร้อมจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเรื่องการสร้าง "พลเมืองที่เข้มแข็ง" เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชี่ยวชาญตามความถนัดของตน มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ซึ่งจะได้จัดทำเอกสารสถานการณ์ แนวโน้ม ข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางการบูรณาการด้านต่าง ๆ สู่การปฏิบัติฉบับสมบูรณ์ พร้อมจัดทำข้อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

