วันที่ 29 - 30 พฤษภาคม 2568 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดทำข้อมูลและสารสนเทศดิจิทัลทางการศึกษาเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยมี ดร.ช่อบุญ จิรานุภาพ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา พร้อมด้วย ผู้แทนหน่วยงานจัดการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานศึกษาธิการภาค 1 - 4 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด 16 แห่ง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ โรงแรมแบงค็อก มิดทาวน์ กรุงเทพมหานคร 

รศ.ดร.ประวิต กล่าวว่า ในยุคที่เทคโนโลยีและกระแสโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อมูลมหาศาล จึงจำเป็นต้องจัดทำสารสนเทศดิจิทัลทางการศึกษา เพื่อสะท้อนภาพรวมด้านการศึกษาและใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารงาน กำหนดนโยบาย วางแผน พัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ สำหรับสนับสนุนการจัดทำตัวชี้วัดเปรียบเทียบกับนานาชาติ และส่งเสริมความเสมอภาคตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 4) สกศ. ได้พัฒนาระบบบริหารจัดการสารสนเทศดิจิทัลเพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ ไว้ในฐานข้อมูลและนำเสนอข้อมูลอย่างหลากหลายและเข้าใจง่ายในระดับจังหวัด คาดหวังว่าการประชุมนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนาข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาประเทศและทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน สอดรับกับนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ว่า “เรียนดี มีความสุข” และเพื่อเป้าหมายในการจัดการศึกษาให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล

วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 นายภาณุพงศ์ พนมวัน ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารข้อมูลสารสนเทศเพื่อการศึกษา ได้บรรยายในหัวข้อ “การจัดทำข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการการศึกษาระดับจังหวัด” ครอบคลุมหลายประเด็นสำคัญ โดยเน้นย้ำถึงลักษณะของตัวชี้วัดที่ดีที่สามารถวัดผลจริงและสะท้อนภาพรวมได้ รวมถึงการตรวจสอบและประมาณค่าข้อมูล การกำหนดเป้าหมายสำหรับตัวชี้วัดสามารถทำได้หลายวิธี เช่น อิงตามยุทธศาสตร์หรือวิเคราะห์แนวโน้มจากข้อมูลย้อนหลัง ยังมีการอธิบายถึงประเภทของตัวชี้วัดสำคัญ เช่น อัตราการเข้าเรียน อัตราการออกกลางคันและอัตราการสำเร็จการศึกษา เพื่อให้สามารถวิเคราะห์สถานะและแนวโน้มของตัวชี้วัดเทียบกับเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

จากนั้น นายสรนันท์ กั้นเกษ และนายเกรียงสิทธิ์ ดลประสิทธิ์ นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ สดศ. บรรยายและนำฝึกปฏิบัติ “การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ” การแสดงผลข้อมูลด้วยภาพ เพื่อประโยชน์ของข้อมูลที่เข้าใจง่ายและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักการสำคัญในการเลือกใช้แผนภูมิให้เหมาะสมกับประเภทของข้อมูลและวัตถุประสงค์ของการนำเสนอ พร้อมยกตัวอย่างแผนภูมิประเภทต่างๆ ที่ใช้สำหรับการแสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบสัดส่วน แนวโน้ม ความสัมพันธ์ การกระจายตัวและเชิงภูมิศาสตร์ รวมถึงข้อควรระวังในการออกแบบภาพข้อมูลและเครื่องมือสำหรับสร้างภาพข้อมูลที่ได้รับความนิยม พร้อมกันนี้ผู้เข้าประชุมได้ฝึกปฏิบัติเพื่อสามารถนำไปต่อยอดการดำเนินงานวางแผนนโยบายการศึกษาในจังหวัดให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น

วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นางสาวญาณนันท์ สามเพชรเจริญ นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ บรรยาย “ข้อมูลและตัวชี้วัดระดับจังหวัด” ได้นำเสนอข้อมูลสถิติและตัวชี้วัดที่สำคัญเพื่อสะท้อนสถานการณ์และคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ ครอบคลุมตัวชี้วัดเกี่ยวกับการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาในระดับชั้นต่าง ๆ ยังมีการนำเสนอข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สัดส่วนผู้เรียนระหว่างสายสามัญและสายอาชีวศึกษา รวมถึงการประเมินคุณภาพการศึกษาโดยรวมของจังหวัดผ่านดัชนีคุณภาพการศึกษา ซึ่งประกอบด้วยตัวชี้วัดย่อยหลายรายการ เพื่อชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งและจุดที่ควรพัฒนาทางการศึกษาในจังหวัดเพื่อสร้างผลลัพธ์การพัฒนาที่ดีในอนาคตได้ “การจัดทำข้อมูลเปิด (Open Data) ภาครัฐ” เป็นข้อมูลซึ่งหน่วยงานภาครัฐต้องเปิดเผยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ได้อย่างอิสระ 5 กลุ่ม ได้แก่ Big Data, Open Data, Public Sector Information, Open Government Data และHigh Value Datasets รวมถึงระดับการเปิดเผยข้อมูล และแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ เช่น การส่งเสริมธรรมาภิบาล การสร้างความโปร่งใส “กรอบการประเมินคุณภาพข้อมูลทางการศึกษาของประเทศ (DQAF)” การเปลี่ยนผ่านจาก MDGs ไปสู่ SDGs แรงผลักดันในการประเมินคุณภาพข้อมูล และอธิบายถึงกรอบการประเมิน Ed-DQAF การปรับปรุงเป็น Light Ed-DQAF รวมถึงกระบวนการและระยะเวลาการประเมินในประเทศไทย มีเป้าหมายการดำเนินงานใน  3 แนวคิด คือ สภาพแวดล้อมขององค์กร กระบวนการทางสถิติ และผลลัพธ์สถิติทางการศึกษา โดยมีการประเมินคะแนนสิ่งที่ควรได้รับการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพข้อมูลด้านการศึกษา

ดร.ช่อบุญ กล่าวปิดท้ายว่า สกศ. หวังว่าหน่วยงานระดับภูมิภาคจะได้มองเห็นภาพรวมของโครงสร้างและต้นแบบสารสนเทศดิจิทัลทางการศึกษาได้ชัดขึ้น ซึ่งจะเป็นรากฐานในการจัดทำข้อมูลภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ โดย สกศ. จะรวบรวมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากแต่ละจังหวัดที่ได้ นำไปพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลและสารสนเทศดิจิทัลทางการศึกษา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป