วันที่ 30 เมษายน 2568 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการกับ Ms. Natalie Limbasan หัวหน้าคณะทำงานการประเมินการเข้าร่วมเป็นสมาชิกและที่ปรึกษากฎหมายระดับอาวุโสของสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development : OECD) พร้อมด้วย นายวีระพงษ์ อู๋เจริญ ผู้อำนวยการสำนักประเมินผลการจัดการศึกษา ดร.ศศิรัศม์ วีระไวทยะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายความร่วมมือกับต่างประเทศ  คณะทำงานฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมภุชงค์ เพ่งศรี อาคาร 1 สกศ. 

รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวในที่ประชุมว่า การเข้าเป็นสมาชิกขององค์การ OECD ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ทัดเทียมระดับสากล กระบวนการที่กำลังดำเนินการผ่านการจัดทำ Initial Memorandum (IMs) ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยปัจจุบันข้อมูลและระบบการดำเนินงานด้านการศึกษาของไทยยังมีลักษณะกระจัดกระจายและอยู่ภายใต้หลายหน่วยงานการดำเนินงานที่เป็นระบบภายใต้การประสานของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สะท้อนถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของ สกศ. ในการวางรากฐานเชิงนโยบายเพื่ออนาคตของการศึกษาไทย

ที่ประชุมร่วมกันหารือแนวทางการจัดทำเอกสาร Initial Memorandum (IMs) เพื่อรองรับกระบวนการขอเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD โดยร่วมกันพิจารณาความก้าวหน้าในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ OECD ภายใต้ 4 หัวข้อ Initial Memorandum (IMs) ได้แก่ (1) OECD/LEGAL/0116 การพัฒนานโยบายการศึกษาเพื่อรองรับบริบททางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง (2) OECD/LEGAL/0340 แนวทางการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพข้ามพรมแดน (3) OECD/LEGAL/0339 การสร้างความปลอดภัยในโรงเรียนจากภัยพิบัติ โดยเฉพาะภัยแผ่นดินไหว และ (4) OECD/LEGAL/0485 การส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษาเพื่อสังคมที่เป็นธรรม จากมุมมองของ Ms. Natalie Limbasan เห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเริ่มต้นที่ดี เนื่องจากเนื้อหาของ IMs ที่ทาง สกศ. ได้จัดทำนั้นมีความถูกต้องและเหมาะสมแล้ว พร้อมเสนอแนะว่าให้จัดรูปแบบข้อมูลตามแบบฟอร์มจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งจะแจ้งให้ทาง สกศ. ทราบต่อไป

การหารือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับบทบาทของประเทศไทยบนเวทีการศึกษาโลก โดย สกศ. จะดำเนินการตามแนวทางของ OECD อย่างเป็นระบบและรอบด้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบในอนาคต และผลักดันนโยบายการศึกษาที่มีคุณภาพ ครอบคลุม และเท่าเทียม เพื่อประโยชน์ของผู้เรียนไทยในทุกกลุ่มเป้าหมาย