วันที่ 12 – 14 มิถุนายน 2568 ดร.นิติ นาชิต รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อติดตามการพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ ร่วมกับ จังหวัดยะลา สำนักงานศึกษาธิการภาค 7 และโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ดร.ชูสิน วรเดช ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการภาค 7 ดร.พีรศักดิ์ รัตนะ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นางปัทมา วีระวานิช ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์ ผศ.ดร.ศรายุทธ ทองอุทัย และ ดร.กาญจนา หงษ์รัตน์ ผู้อำนวยการสำนักกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้แทนหน่วยงานการศึกษาในพื้นที่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในรูปแบบผสมผสานออนไลน์และออนกราวด์ ณ ห้องประชุมติงเซียง มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จังหวัดยะลา

วันที่ 12 มิถุนายน 2568 ผู้ทรงคุณวุฒินำทีมสำนักกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ลงพื้นที่ศึกษาสถานประกอบการต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะศิษย์พระดาบส ของโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท เอบีซี การาจ จำกัด (สาขาช่างสีรถยนต์) บริษัท คูโบต้าปัตตานีจักรกล จำกัด (สาขาช่างซ่อมรถยนต์และเครื่องจักรกลการเกษตร) ในจังหวัดสงขลา และร้านไฟซอลปากน้ำ (สาขาช่างซ่อมรถจักรยานยนต์) ในจังหวัดปัตตานี เพื่อประเมินคุณภาพของศิษย์พระดาบสและความเหมาะสมของหลักสูตรและนำข้อมูลไปใช้พัฒนาหลักสูตรให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น โดยโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้มูลนิธิพระดาบส ได้มีการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรวิชาชีพ เพื่อสร้างโอกาส อาชีพ รายได้ และโอกาสศึกษาต่อที่สูงขึ้นให้กับผู้เรียนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับ สกศ. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ในการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ 

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 ดร.ชูสิน กล่าวว่า นโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ “เรียนดี มีความสุข” ได้มอบหมายให้ติดตามการดำเนินงานทั้งด้านนโยบายและการปฏิบัติ ในฐานะบทบาทของศึกษาธิการภาค 7 ถือเป็นประเด็นท้าทายเรื่องผลิตกำลังคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มุ่งหวังให้คนในพื้นที่ทุกช่วงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีเป้าประสงค์ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีศักยภาพตอบโจทย์ความมั่นคงในด้านอัตลักษณ์พื้นที่ เช่น ด้านศาสนา วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ รวมถึงปลูกฝังค่านิยมในการรักสถาบันอีกด้วย

นายก้องสกุล กล่าวว่า แนวทางการพัฒนากำลังคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เน้นการบริหารทรัพยากรมนุษย์เป็นสำคัญ มองว่าจะทำอย่างไรให้บริหารคนและจัดการปัญหาที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ได้ในทุกมิติทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จึงเน้นส่งเสริมอาชีพเพื่อเพิ่มศักยภาพของคนพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง เพิ่มโอกาสการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ ดังนั้นกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและธนาคารหน่วยกิต จึงเป็นเครื่องมือและโอกาสในการได้รับคุณวุฒิตามวิชาชีพ รวมทั้งส่งเสริมให้คนทุกช่วงวัยเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา สอดรับนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สู่การพัฒนากำลังคนที่ยั่งยืน

ดร.นิติ กล่าวว่า นโยบายการพัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นเพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ในอนาคต ตามนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้คนทุกช่วงวัยเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนที่ยั่งยืน สกศ. ได้ติดตามและขยายผลการพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ โดยหลักสูตรของโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นต้นแบบให้ผู้เรียนได้รับคุณวุฒิการศึกษาควบคู่กับการรับรองมาตรฐานอาชีพได้อย่างเป็นรูปธรรม และความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนการดำเนินงานฯ ส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับทุกคน เน้นการเชื่อมโยงหลักสูตรเข้ากับ NQF และระบบธนาคารหน่วยกิต สามารถเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ ลดระยะเวลาการศึกษาและสนับสนุนการเรียนรู้ เทียบโอนผลการเรียน สะสมหน่วยกิตในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการแปลงประสบการณ์อาชีพเป็นสมรรถนะและหน่วยกิต อย่างไรก็ตาม การพัฒนาหลักสูตรตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและธนาคารหน่วยกิตจะสำเร็จได้หากทุกภาคส่วน เปิดใจ เข้าใจ เข้าถึง และพร้อมร่วมพัฒนาเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ที่ประชุมรับฟังการนำเสนอ “การขับเคลื่อนการพัฒนาหลักสูตรตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและธนาคารหน่วยกิตระดับการศึกษา” โดยหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการและกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และ “การดำเนินงานพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ของโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้” โดยหัวหน้าหลักสูตรโรงเรียนพระดาบสฯ กล่าวถึงแผนพัฒนาหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตรวิชาชีพช่างอุตสาหกรรม ใน 5 หมวด ได้แก่ หมวดเตรียมช่างพื้นฐาน, หมวดทักษะชีวิต, หมวดวิชาชีพเฉพาะ, หมวดฝึกงาน และหมวดเตรียมความพร้อมก่อนทำงานและสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เกี่ยวกับสาขาวิชาช่างต่าง ๆ เช่น ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์และช่างเชื่อม และผลการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สถานะการจ้างงานของศิษย์พระดาบสรุ่นที่ 14 แสดงให้เห็นถึงการจัดทำหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เพื่อให้มั่นใจว่าหลักสูตรมีความเกี่ยวข้องและเหมาะสมกับการทำงานจริง

จากนั้น การนำเสนอแนวทางการพัฒนาหลักสูตรตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และแนวทางการจัดข้อมูลหลักสูตรในระดับพื้นที่ โดย ผศ.ดร.ศรายุทธ และ ดร.กาญจนา ได้แบ่งกลุ่ม Workshop เพื่อจัดทำข้อมูลหลักสูตร/การจัดการศึกษาและฝึกอบรมในพื้นที่ 5 จังหวัด โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิเป็นวิทยากรและผู้บริหารผู้แทนจากหน่วยงานสถานศึกษา 5 จังหวัดร่วมดำเนินการ ทั้งนี้ การสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนสำคัญทำให้เกิดความร่วมมือและพร้อมสร้าง Big Data ในเขตพื้นที่ของตนเอง เพื่อสร้างโอกาสและการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตอบโจทย์บริบทพื้นที่และสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ

วันที่ 14 มิถุนายน 2568 การอภิปรายและให้ข้อคิดเห็นต่อร่างข้อมูลและแนวทางการพัฒนาหลักสูตร/การจัดการศึกษาและฝึกอบรมในพื้นที่ 5 จังหวัด มีข้อเสนอแนะในด้านการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในการเชื่อมโยงของประเภทและระดับของแต่ละจังหวัดที่มีจุดเด่นในด้านอัตลักษณ์หรืออาชีพหลักในพื้นที่ที่แตกต่างกัน จึงต้องมีความชัดเจนในหลักสูตรที่ต้องการเชื่อมโยงให้เหมาะสม รวมถึงบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน และข้อเสนอแนะที่ได้จะนำไปพัฒนาหลักสูตรสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และฐานข้อมูล Big Data ธนาคารหน่วยกิตของจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ศึกษาสถานประกอบการต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสมรรถนะศิษย์พระดาบสที่ร้านสะเตงโฆษณา สาขาช่างเชื่อมในการเชื่อมโครงสร้างการติดตั้งป้ายโฆษณา ในจังหวัดยะลา ข้อมูลข้อเสนอแนะที่ได้นำไปพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติในภาพรวมต่อไป