สกศ. สนับสนุน AI – การศึกษายืดหยุ่น รองรับกฎหมายการศึกษาเท่าเทียม

วันที่ 2 – 4 กรกฎาคม 2568 นายธฤติ ประสานสอน รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง แนวทางการจัดทำกฎหมายลำดับรองเพื่อรองรับการขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาเท่าเทียม โดยมี นายเฉลิมชนม์ แน่นหนา ดร.สวัสดิ์ ภู่ทอง นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการ กสศ. นายอาทร ทองสวัสดิ์ นายโกวิท คูเพนียด ผู้อำนวยการสำนักนิติการ สป.ศธ. พร้อมด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท จังหวัดเพชรบุรี
นายธฤติ กล่าวว่า การจัดทำกฎหมายลำดับรองเพื่อรองรับการขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาเท่าเทียม เป็นมาตรการที่จะต่อยอดไปสู่การสร้างมาตรการการบังคับใช้กฎหมายและแนวทางเชิงนโยบายที่สามารถรองรับการขับเคลื่อน “กฎหมายการศึกษาเท่าเทียม” เพื่อยกระดับการศึกษาของประเทศให้เกิดความเท่าเทียม สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน และกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเอกภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน โดยการระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดแนวทางการจัดทำกฎหมายลำดับรองมุ่งเน้นการกำหนดแนวทางและกลไกทางกฎหมายที่เอื้อต่อการออกแบบระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น เข้าถึงได้ง่าย ผ่านการบูรณาการเทคโนโลยี ทรัพยากรเพื่อการศึกษาและระบบติดตามผลอย่างมีประสิทธิภาพ
การอภิปรายเรื่อง “แนวทางการจัดทำกฎหมายลำดับรองเพื่อรองรับการขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาเท่าเทียม” โดยผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ปูพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการศึกษา เทคโนโลยีการศึกษา ระบบธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ และผู้เข้าร่วมประชุมร่วมกันระดมความคิดเห็นแนวทางการจัดทำกฎหมายลำดับรองเพื่อรองรับการขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาเท่าเทียม ได้แก่ การนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการจัดการศึกษา แนวทางการจัดทำกฎหมายเพื่อสร้างระบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นตลอดชีวิต แนวทางการจัดทำกฎหมายเพื่อสนับสนุนทรัพยากรทางการศึกษา
ที่ประชุมร่วมกันนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจว่าควรมีการกำหนดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในการจัดการศึกษา ทั้งในรูปแบบนอกสถานศึกษาและหลักสูตรที่แตกต่างจากหลักสูตรแกนกลาง เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทางการศึกษาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กยากจน เด็กไร้สัญชาติ และผู้เรียนที่หลุดจากระบบ นอกจากนี้ยังเห็นพ้องให้เร่งจัดตั้งกลไกการกำกับติดตามการใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับบริบทสถานศึกษา และจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น บุคลากร อุปกรณ์ สื่อการเรียนรู้ และความรู้ด้านดิจิทัล ควบคู่กับข้อเสนอเชิงนโยบายที่เน้นการประสานงานระหว่างหน่วยงาน การพัฒนาหลักสูตรที่ยืดหยุ่นและประเมินได้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมทักษะรู้เท่าทันเทคโนโลยี จากมุมมองอันเป็นประโยชน์จากที่ประชุม สกศ. จะนำแนวคิดเหล่านี้ไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง ให้มีความครอบคลุม ทันสมัย สามารถยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง

