กิจกรรมและผลการดำเนินงาน
สกศ.จัดประชุมคณะทำงานฐานข้อมูล (อพ.สธ.-สกศ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เน้นเชื่อมโยงข้อมูลของสกศ. กับ อพ.สธ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จัดประชุมคณะทำงานฐานข้อมูล โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษา (อพ.สธ.-สกศ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๐๐ -๑๔.๐๐ น. ณ ห้องประชุมม่วงเทพรัตน์ อาคารสำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สวนจิตรลดา โดยมี ผศ.ดร. วุฒิพงษ์ ชินศรี เป็นประธานคณะทำงาน มี ดร. ประวีณา อัสโย เป็นรองประธาน คณะทำงานชุดนี้ มีบทบาทหน้าที่ในการรวบรวม ประสาน ปรับปรุง พัฒนาฐานข้อมูลของสำนักงานฯ ให้ เชื่อมต่อกับ อพ.สธ. ซึ่งจะเป็นแหล่งรวบรวมฐานข้อมูลทรัพยากรในระดับชาติของประเทศไทย
ในการประชุม คณะทำงานฯ ได้ร่วมหารือกับนายพรชัย จุฑามาศ รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) นายขจรศักดิ์ วรประทีป หัวหน้าแผนกวิชาการ อพ.สธ. และทีมงาน โดยสำนักงานฯ ได้นำเสนอแนวทางการดำเนินงาน อพ.สธ. ระยะ ๕ ปีที่เจ็ดของสำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษา ซึ่งได้แก่ กรอบแผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ ๕ ปีที่เจ็ด (๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๙) ของสำนักงานฯ (อพ.สธ.-สกศ.) ที่ประกอบด้วย ๔ กิจกรรมหลัก คือ ๑) กิจกรรมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร และนวัตกรรมของสถานศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ๒) กิจกรรมการทำข้อมูลงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น/ครูภูมิปัญญาไทย ๓) การจัดประชุมคณะกรรมการอพ.สธ.- สกศ. และคณะทำงาน อพ.สธ. สกศ./ร่วมประชุมวิชาการและนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและฐานทรัพยากรท้องถิ่น ๔) กิจกรรมสื่อสาร เผยแพร่ประชาสัมพันธ์งาน อพ.สธ.-สกศ. รวมถึงนำเสนอกิจกรรมการดำเนินงานสนองพระราชดำริ อพ.สธ. ของ สำนักงานฯ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๖ และรายละเอียดฐานข้อมูลครูภูมิปัญญาไทยของสำนักงานฯ
จากนั้น นายพรชัย จุฑามาศ รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) ได้ให้หลักการในการเชื่อมโยงข้อมูล และนายขจรศักดิ์ วรประทีป หัวหน้าแผนกวิชาการ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฐานข้อมูลและแอปพลิเคชันของ อพ.สธ. ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการนำเข้าหรือเชื่อมโยงข้อมูลครูภูมิปัญญาไทยของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กับฐานข้อมูลหรือแอปพลิเคชัน ของ อพ.สธ. ในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งมีบางส่วนที่มี ความแตกต่าง เช่น ครูภูมิปัญญาไทย ของ สกศ. มี ๙ ด้าน แต่ อพ.สธ. มีการจัดเก็บข้อมูลภูมิปัญญา ๑๐ ด้าน สกศ. เป็นข้อมูลบุคคล แต่ อพ.สธ. จัดเก็บภูมิปัญญาแบบเป็นเรื่อง ๆ และให้ความสำคัญกับพิกัดของพื้นที่จัดเก็บ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นฐานข้อมูลครูภูมิปัญญาไทยของสกศ. สามารถนำไปเชื่อมโยงกับใบงานที่ ๘ การเก็บข้อมูลภูมิปัญญาในท้องถิ่นได้ โดยในการเชื่อมต่อข้อมูล อพ.สธ. ได้เปิดให้ สกศ. สามารถทดสอบการใช้งานระบบฐานทรัพยากร อพ.สธ. ได้ที่ https://rspg.ogs.co.th/login และเปิดช่องทางให้ สกศ. เป็นศูนย์การสำรวจหนึ่งที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องเข้าสู่ฐานข้อมูลของ อพ.สธ.ได้ นับเป็นจุดเริ่มต้นในการปรับปรุง พัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลของทั้งสองหน่วยงานต่อไป
สกศ. ประชุมคณะทำงาน อพ.สธ.–สกศ. ครั้งที่ ๑ มุ่งขับเคลื่อนงานอพ.สธ.-สกศ. เต็มกำลัง
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จัดการประชุมคณะทำงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ (อพ.สธ. - สกศ.) ระยะ ๕ ปีที่เจ็ด (๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๙) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๕ โดยมีผู้ช่วยเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.ภูมิพัทธ เรืองแหล่) เป็นประธาน ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร ชั้น ๓ อาคาร ๕๖ ปี สกศ. และในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม Cisco WebEx ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID - 19)
ประธานได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ระยะ ๕ ปีที่เจ็ด (๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๙) ที่แต่งตั้งขึ้นใหม่เพื่อทดแทนคณะทำงานอพ.สธ. - สกศ. ชุดเดิม ที่มีผู้เกษียณอายุราชการหลายท่าน จากนั้น ฝ่ายเลขานุการฯ ได้รายงานผลการดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ซึ่ง สกศ. ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศึกษาแนวทางการเพิ่มศักยภาพศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยด้านเกษตรกรรมในการอนุรักษ์สืบสานทรัพยากรพื้นถิ่นอย่างยั่งยืน โดยได้ศึกษาจากศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยที่โดดเด่นจาก ๔ ภูมิภาคทั่วประเทศ อีกทั้งได้ดำเนินการพัฒนาฐานข้อมูลครูภูมิปัญญาไทย ๔ ด้าน คือ ด้านเกษตรกรรม ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการแพทย์แผนไทย และด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ตลอดจนจัดทำแผนแม่บท อพ.สธ. - สกศ. ระยะ ๕ ปีที่เจ็ด (๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๙) และจัดทำแผ่นพับเผยแพร่งานอพ.สธ. ของ สกศ.
สำหรับในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ จะดำเนินกิจกรรมการส่งเสริมจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากร วัฒนธรรมและภูมิปัญญา กรณีศึกษาองค์ความรู้ด้านสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพองค์รวม ดำเนินการพัฒนาฐานข้อมูลครูภูมิปัญญาไทยให้มีความทันสมัยและถูกต้องเพิ่มเติม จำนวน ๕ ด้าน คือ ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน ด้านศิลปกรรม ด้านภาษาและวรรณกรรม ด้านปรัชญา ศาสนาและประเพณี และด้านโภชนาการ นอกจากนี้ยังได้วางแผนจัดพิมพ์หนังสือ “แนวทางการเพิ่มศักยภาพศูนย์ การเรียนภูมิปัญญาไทยด้านเกษตรกรรมในการอนุรักษ์สืบสานทรัพยากรพื้นถิ่นอย่างยั่งยืน” จำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปรับรู้และเข้าใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่วนในปีงบประมาณ ๒๕๖๖ วางแผนจะศึกษาแนวทางปลูกฝังจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่กับการเสริมสร้างทักษะ การดำรงชีวิตในศตวรรษที่ ๒๑ ของปราชญ์ชาวบ้าน
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาแนวทางการจัดนิทรรศการของ สกศ. ที่จะเข้าร่วมงานประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ ๑๑ ทรัพยากรไทย: ๓๐ ปี อพ.สธ. ประโยชน์แท้แก่มหาชน ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๕ กันยายน ๒๕๖๕ ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสรุปว่าจะนำเสนอองค์ความรู้ด้านการเกษตร โดยมีครูปิยมาศ คเชนทร์กำแหง ครูภูมิปัญญาไทย ด้านเกษตรกรรม รุ่นที่ ๗ เป็นผู้ให้ความรู้ ที่ประชุมยังได้ร่วมกันพิจารณาการดำเนินโครงการปี ๒๕๖๗ โครงการจัดทำสื่อองค์ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาไทย ๙ ด้าน ที่สอดคล้องและสนองภารกิจของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งในโครงการจะประกอบด้วยกิจกรรมหลักได้แก่ ผลิตสื่อ อบรมให้ความรู้ครูภูมิปัญญาไทยเกี่ยวกับสิทธิทางปัญญาและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนจัดทำข้อมูลเว็บไซต์ครูภูมิปัญญาไทยให้ทันสมัยเป็นปัจจุบัน เป็นต้น
สกศ. ร่วมประชุมวิชาการและจัดนิทรรศการ ครั้งที่ ๑๑ "ทรัพยากรไทย: ๓๐ ปี อพ.สธ. ประโยชน์แท้แก่มหาชน”
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เข้าร่วมประชุมวิชาการและจัดนิทรรศการ ครั้งที่ ๑๑ "ทรัพยากรไทย: ๓๐ ปี อพ.สธ. ประโยชน์แท้แก่มหาชน” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๔ กันยายน ๒๕๖๕ ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยในพิธีเปิด สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการประชุม ณ หอประชุมใหญ่ อาคารไทยบุรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๕ ในการนี้ ผู้ช่วยเลขาธิการ สภาการศึกษา (ดร.ภูมิพัทธ เรืองแหล่) เป็นผู้แทนสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เข้าร่วมเฝ้า ทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ (ดร.ประวีณา อัสโย) เป็นผู้แทนสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ทูลเกล้าถวายฯ ของที่ระลึก ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษาเข้าประจำบูธนิทรรศการของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ณ โซน CO6/2
สำหรับการจัดการประชุมครั้งนี้ มีกิจกรรมต่าง ๆ หลากหลาย อาทิ การจัดแสดงนิทรรศการ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน นิทรรศการงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น นิทรรศการหน่วยงานสนองพระราชดำริ ซึ่งมีหน่วยงานเข้าร่วม จำนวน ๑๒๖ หน่วยงาน สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เป็น ๑ ใน ๑๒๖ หน่วยงานที่เข้าร่วมจัดนิทรรศการ ในบูธของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษานำเสนอผลการดำเนินงาน อพ.สธ. ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และนำเสนอองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทย โดยมี “นางปิยมาศ คเชนทร์กำแหง” ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ ๗ ด้านเกษตรกรรม (เกษตรผสมผสาน) ของสำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษา เป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ อาทิ วิธีการเลี้ยงไส้เดือน AF การเลี้ยงหนอนนก การทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง การบำรุงดิน การปลูกผักปลอดสารพิษ การไล่แมลง การทำกาลักน้ำ ทั้งยังนำพันธุ์พืชท้องถิ่นหายาก เช่น ดีปลีเชือก มาจัดแสดง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแจกพันธุ์พืช และหนังสือของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เช่น สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ตัวอย่างบทเรียนการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ แนวทางการเพิ่มศักยภาพศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยด้านเกษตรกรรมในการอนุรักษ์ สืบสานทรัพยากรพื้นถิ่นอย่างยั่งยืน ถอดบทเรียนการต่อยอดสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิปัญญาฯ เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจมีผู้เข้าเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจำนวนมาก
สกศ. ร่วมประชุมวิชาการและจัดนิทรรศการ ครั้งที่ ๑๑ "ทรัพยากรไทย: ๓๐ ปี อพ.สธ. ประโยชน์แท้แก่มหาชน”
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เข้าร่วมประชุมวิชาการและจัดนิทรรศการ ครั้งที่ ๑๑ "ทรัพยากรไทย: ๓๐ ปี อพ.สธ. ประโยชน์แท้แก่มหาชน” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๔ กันยายน ๒๕๖๕ ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยในพิธีเปิด สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการประชุม ณ หอประชุมใหญ่ อาคารไทยบุรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๕ ในการนี้ ผู้ช่วยเลขาธิการ สภาการศึกษา (ดร.ภูมิพัทธ เรืองแหล่) เป็นผู้แทนสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เข้าร่วมเฝ้า ทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ (ดร.ประวีณา อัสโย) เป็นผู้แทนสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ทูลเกล้าถวายฯ ของที่ระลึก ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษาเข้าประจำบูธนิทรรศการของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ณ โซน CO6/2
สำหรับการจัดการประชุมครั้งนี้ มีกิจกรรมต่าง ๆ หลากหลาย อาทิ การจัดแสดงนิทรรศการ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน นิทรรศการงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น นิทรรศการหน่วยงานสนองพระราชดำริ ซึ่งมีหน่วยงานเข้าร่วม จำนวน ๑๒๖ หน่วยงาน สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เป็น ๑ ใน ๑๒๖ หน่วยงานที่เข้าร่วมจัดนิทรรศการ ในบูธของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษานำเสนอผลการดำเนินงาน อพ.สธ. ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และนำเสนอองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทย โดยมี “นางปิยมาศ คเชนทร์กำแหง” ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ ๗ ด้านเกษตรกรรม (เกษตรผสมผสาน) ของสำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษา เป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ อาทิ วิธีการเลี้ยงไส้เดือน AF การเลี้ยงหนอนนก การทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง การบำรุงดิน การปลูกผักปลอดสารพิษ การไล่แมลง การทำกาลักน้ำ ทั้งยังนำพันธุ์พืชท้องถิ่นหายาก เช่น ดีปลีเชือก มาจัดแสดง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแจกพันธุ์พืช และหนังสือของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เช่น สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ตัวอย่างบทเรียนการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ แนวทางการเพิ่มศักยภาพศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยด้านเกษตรกรรมในการอนุรักษ์ สืบสานทรัพยากรพื้นถิ่นอย่างยั่งยืน ถอดบทเรียนการต่อยอดสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิปัญญาฯ เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจมีผู้เข้าเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจำนวนมาก
คณะทำงาน อพ.สธ. – สกศ. ประชุม วางแผนดำเนินงาน ปี ๖๗ เน้นเพิ่มพูนองค์ความรู้สิทธิในภูมิปัญญาและทรัพย์สินทางปัญญา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จัดประชุมคณะทำงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ. - สกศ.) ระยะที่ ๕ ปีที่เจ็ด (๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๙) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร อาคาร ๕๖ ปี ชั้น ๓ สกศ. ควบคู่กับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม Cisco WebEx โดยมีผู้ช่วยเลขาธิการ สภาการศึกษา (ดร.ภูมิพัทธ เรืองแหล่) เป็นประธานการประชุม
การประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้ทราบความก้าวหน้าในการดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการ อพ.สธ. ปีงบประมาณ ๒๕๖๕ โดย สกศ. จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศึกษาวิจัยเรื่องการส่งเสริมจิตสำนึก การอนุรักษ์ทรัพยากร วัฒนธรรมและภูมิปัญญา กรณีศึกษาองค์ความรู้ด้านสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพองค์รวม ซึ่งการศึกษาสามารถแบ่งได้เป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนที่ ๑ ศึกษารวบรวมข้อมูล องค์ความรู้จากครูภูมิปัญญาไทย ด้านการแพทย์แผนไทยของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เกี่ยวกับพืชสมุนไพรพื้นบ้านหรือพืชสมุนไพรของแต่ละท้องถิ่น ใน ๔ ภูมิภาค และส่วนที่ ๒ ศึกษาแนวทางการสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์พืชสมุนไพรพื้นบ้านจากครูภูมิปัญญาไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๑ แห่ง และสถานศึกษาที่ดำเนินโครงการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนที่ดำเนินการสร้างจิตสำนึกได้อย่างโดดเด่น จำนวน ๒ แห่ง นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการพัฒนาฐานข้อมูลครูภูมิปัญญาไทย และจะเข้าร่วมงานประชุมวิชาการและนิทรรศการ ทรัพยากรไทย : ๓๐ ปี อพ.สธ. ประโยชน์แท้แก่มหาชน ณ วันที่ ๑๙ – ๒๔ กันยายน ๒๕๖๕ ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งบูธนิทรรศการของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จะอยู่บริเวณพื้นที่ลานจอดรถด้านข้างอาคารสถาปัตยกรรมศาสตร์ แถว F5
ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาโครงการปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ตามแผนแม่บท (อพ.สธ. - สกศ.) "โครงการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านสิทธิในภูมิปัญญา/ทรัพย์สินทางปัญญาและตัวอย่างแนวทางการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ของสถานศึกษาและครูภูมิปัญญาไทย" ซึ่งในโครงการประกอบด้วย ๔ กิจกรรม คือ ๑) กิจกรรมเสริมสร้าง องค์ความรู้ด้านสิทธิในภูมิปัญญา/ทรัพย์สินทางปัญญาและตัวอย่างแนวทางการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ของสถานศึกษาและครูภูมิปัญญาไทย ๒) กิจกรรมการทำข้อมูลงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น/ครูภูมิปัญญาไทย ๓) การจัดประชุมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน ๔) กิจกรรมสื่อสาร เผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานอพ.สธ. – สกศ. โดยมีวัตถุประสงค์โครงการเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิในภูมิปัญญาและทรัพย์สินทางปัญญาให้ ครูภูมิปัญญาไทย ผู้บริหารสถานศึกษา ครู อาจารย์ที่เคยมีผลงานสร้างสรรค์ในงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนให้เห็นแนวทางในการจดอนุสิทธิบัตร/สิทธิบัตรในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากร ภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนสร้างสรรค์นวัตกรรมที่คิดค้นโดยคนไทย ช่วยเพิ่มเพิ่มมูลค่า รายได้ และพัฒนาสู่ต่อยอดสู่ระดับสากลต่อไป
สกศ. ประชุมคณะกรรมการ อพ.สธ. - สกศ. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ ร่วมระดมความคิดเห็นขับเคลื่อนงานอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จัดประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ โดยมีเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.อรรถพล สังขวาสี) เป็นประธานการประชุม มีเลขานุการคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (ดร.ปิยรัษฎ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์) เป็นรองประธานกรรมการฯ การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (นายพรชัย จุฑามาศ) เข้าร่วมประชุมให้แนวทางการดำเนินงาน อพ.สธ. ทั้งนี้ การประชุมเป็นการจัดควบคู่ ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร อาคาร ๕๖ ปี สกศ. และการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม Cisco WebEx
ที่ประชุมได้รับทราบภาพรวมการดำเนินงาน อพ.สธ. - สกศ. ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา เช่น กิจกรรมการศึกษาแนวทางการเพิ่มศักยภาพครูภูมิปัญญาไทยด้านเกษตรกรรมในการสืบสานอนุรักษ์ทรัพยากรพื้นถิ่นอย่างยั่งยืน การพัฒนาฐานข้อมูลครูภูมิปัญญาไทย (๔ ด้าน) และรับทราบกิจกรรมที่กำลังดำเนินการในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ เช่น กิจกรรมการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร วัฒนธรรมและ ภูมิปัญญา : กรณีศึกษาองค์ความรู้ด้านสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่น เพื่อเสริมสร้างสุขภาพองค์รวม การพัฒนาฐานข้อมูลครูภูมิปัญญาไทย (๕ ด้าน) การเตรียมงานเข้าร่วมประชุมวิชาการและนิทรรศการ ๓๐ ปี อพ.สธ. – ประโยชน์แท้แก่มหาชน ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ. นครศรีธรรมราช
จากนั้น รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (นายพรชัย จุฑามาศ) และเลขานุการคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (ดร.ปิยรัษฎ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์) ได้เสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน อพ.สธ. ตามแผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ ๕ ปีที่เจ็ด และที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและทบทวนแผนแม่บท อพ.สธ.-สกศ. ระยะ ๕ ปีที่เจ็ด (๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๙) ซึ่งมีกรอบการดำเนินงานประกอบด้วย ๔ กิจกรรมหลัก คือ ๑) กิจกรรมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร และนวัตกรรมของสถานศึกษา ศูนย์การเรียนรู้และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ๒) กิจกรรมการทำข้อมูลงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น/ครูภูมิปัญญาไทย ๓) การจัดประชุมคณะกรรมการ และคณะทำงาน อพ.สธ.-สกศ./ ร่วมประชุมวิชาการและนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและฐานทรัพยากรท้องถิ่น และ ๔) กิจกรรมสื่อสารประชาสัมพันธ์ และได้ร่วมวางแผนและพิจารณาโครงการที่จะดำเนินการในปี ๒๕๖๖ ได้แก่ "โครงการศึกษา แนวทางการปลูกฝังจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่กับการเสริมสร้างทักษะการดำรงชีวิต ในศตวรรษที่ ๒๑ ของปราชญ์ชาวบ้าน" และ "กิจกรรมนำร่องสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิในภูมิปัญญา/ทรัพย์สินทางปัญญาและตัวอย่างแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของครูภูมิปัญญาไทยด้านการทอผ้า" เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตที่สอดคล้องกับบริบทต่าง ๆ เช่น ชุมชนชาวเล ชุมชนชาวเขา ชุมชนที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น เป็นต้น ตลอดจนเป็นการนำร่องสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาให้ครูภูมิปัญญาไทย เพื่อให้เกิด การต่อยอด สำหรับแผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ ๕ ปีที่เจ็ด จะเน้นเรื่องการทำฐานข้อมูลทรัพยากร และปัจจุบัน อพ.สธ. ได้จัดทำแอปพลิเคชัน “ฐานทรัพยากร อพ.สธ.” ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรของประเทศ ที่ทุกหน่วยงานมีส่วนให้ข้อมูลได้ สกศ. มีข้อมูลครูภูมิปัญญาไทยเป็นจำนวนมาก จึงมีการเสนอให้แต่งตั้งคณะทำงานด้านฐานข้อมูลเพื่อจัดทำและเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกับฝ่ายวิชาการของ อพ.สธ.
สกศ. ประชุมคณะทำงาน อพ.สธ. – สกศ. ส่งเสริมการสร้างจิตสำนักอนุรักษ์ ขยายฐาน DATA วางกรอบดำเนินงานแผนแม่บท อพ.สธ.-สกศ. ระยะห้าปีที่เจ็ด
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จัดประชุมคณะทำงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.-สกศ.) ระยะที่ ๕ ปีที่เจ็ด (๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๙) เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๔ โดยมี รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.อุษณีย์ ธโนศวรรย์) เป็นประธานการประชุม และมีผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นคณะทำงาน อาทิ นายกสมาคมครูภูมิปัญญาไทย (นายกฤษณ์ ฤทธิ์เดชา) อดีตรองคณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (รองศาสตราจารย์ ดร. พัฒนา สุขประเสริฐ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ (นายปิยะ บริสุทธิ์เพ็ชร์) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) (นายตรีวิทย์ วินิชสำเภาทิพย์) ครูภูมิปัญญาไทย ร่วมหารือ ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร ชั้น ๓ อาคาร ๕๖ ปี สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.)
คณะทำงานรายงานผลการดำเนินงานของโครงการ อพ.สธ.-สกศ. ที่ผ่านมาจนถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งดำเนินงานภายใต้กรอบความคิด “การสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร” ผ่านการวิจัยและถอดบทเรียน สวนพฤกษศาสตร์ /ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทย การจัดทำฐานข้อมูลครูภูมิปัญญาไทยของสำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษาทั้งหมด จำนวน ๕๐๓ คน รวมถึงจัดทำ Web page อพ.สธ.-สกศ. เผยแพร่ทาง Website www.onec.go.th
สำหรับการดำเนินงานในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ จะศึกษาแนวทางการเพิ่มศักยภาพศูนย์การเรียนภูมิปัญญาไทยด้านเกษตรกรรมในการสืบสานอนุรักษ์ทรัพยากรพื้นถิ่นอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับการพัฒนาฐานข้อมูลครูภูมิปัญญาไทยของ สกศ. ให้ทันสมัยโดยเริ่มดำเนินการใน ๔ ด้าน คือ ๑) ด้านเกษตรกรรม ๒) ด้านอุตสาหกรรมและหัตกรรม ๓) ด้านการแพทย์แผนไทย และ ๔) ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ จะศึกษาองค์ความรู้ด้านสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพองค์รวม พร้อมทั้งดำเนินการพัฒนาฐานข้อมูลอีก ๕ ด้านให้ทันสมัย ทั้งนี้ ที่ประชุมตั้งข้อสังเกตเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล ให้ดำเนินการเปิดเผยโดยความยินยอมและยึดหลักธรรมาภิบาล
ดร.อุษณีย์ ธโนศวรรย์ ร่วมให้ข้อเสนอแนะถึงความต่อเนื่องในการดำเนินงาน เนื่องจากแผนแม่บทเป็นแผนการทำงานระยะยาวจนถึงปี ๒๕๖๙ ควรมีการศึกษาปัจจัยความสำเร็จ/ไม่สำเร็จของทุกระยะ รวมถึงกระบวนการรักษาความยั่งยืนของการนำไปใช้
จากนั้น ที่ประชุมร่วมกันวางแผนโครงการที่จะดำเนินการในปี ๒๕๖๖ เพื่อเสนอต่อสำนักพระราชวังพิจารณา โดยวางแผนจะศึกษาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจัดพิมพ์หนังสือ ๒ เล่ม คือ ๑) ฐานข้อมูล ครูภูมิปัญญา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ๒) การส่งเสริมจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร วัฒนธรรมและภูมิปัญญา : กรณีศึกษาองค์ความรู้ด้านสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพองค์รวม ซึ่งจะเผยแพร่ทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรต่อไป
สรุปสาระการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) วันพุธที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๘.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. ณ ห้องประชุมภาณุมาศ โรงแรมเดอะรอยัล ริเวอร์ กรุงเทพมหานคร
การประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) มี ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานเปิดการประชุม นายสำเนา เนื้อทอง ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี ดร.คมกฤช จันทร์ขจร ผู้ช่วยเลขาธิการ สภาการศึกษา ผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการ อพ.สธ. เข้าร่วมประชุม จำนวนทั้งสิ้น 90 คน
การประชุมมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. สร้างความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) ให้แก่ผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) ๒. ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาให้แก่ผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และ ๓. สร้างความรู้ความเข้าใจในการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์อย่างมีคุณค่า สามารถนำองค์ความรู้ภูมิปัญญามาเพิ่มมูลค่าและสร้างสรรค์นวัตกรรม
ดาวน์โหลด สรุปสาระการประชุมเชิงปฏิบัติได้ที่นี่
สรุปสาระการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้เข้าร่วมประชุม “ชี้แจงการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ในระดับพื้นที่ กระทรวงศึกษาธิการ” เมื่อวันที่ ๔ - ๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ โรงแรมรอยัล ซิตี้ กรุงเทพมหานคร
“การประชุมชี้แจงการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่อง มาจากพระราชดำริฯ ในระดับพื้นที่ กระทรวงศึกษาธิการ” ได้รับเกียรติจากนายวีระ แข็งกสิการ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการจังหวัด ผู้แทนและผู้รับผิดชอบงานโครงการพระราชดำริ ผู้แทนจากส่วนกลาง อาทิ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมจำนวนกว่า ๑๘๐ คน
กิจกรรมการบรรยายพิเศษที่เกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดำริฯ
การประชุมครั้งนี้มีการบรรยายพิเศษจำนวน ๕ หัวข้อ และมีกิจกรรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มย่อย ดังมีเนื้อหาโดยสรุปดังต่อไปนี้
๑. “สถาบันพระมหากษัตริย์กับการศึกษา” โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
พระมหากษัตริย์ไทยทรงวางรากฐานการศึกษาไทยไว้อย่างมั่นคงมาช้านาน ด้วยทรงมีพระวิสัยทัศน์และมีพระราชดำริว่า “การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดประการหนึ่งซึ่งเป็นฐานให้บุคคลก้าวไปสู่ความสำเร็จ” ทั้งนี้ สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงสอนหลักปฏิบัติในการเรียนรู้ ๓ ประการ คือ (๑) มองทุกอย่างที่ฉันทำ (๒) จดทุกอย่างที่ฉันพูด และ (๓) สรุปทุกอย่างที่ฉันคิด
๒. การขับเคลื่อนสถานศึกษาคุณธรรม โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี
การขับเคลื่อนโรงเรียนคุณธรรมเป็นการสนองพระราชประสงค์ในสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่มีเป้าหมาย “ให้โรงเรียนสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง” โดยมีหลักการบริหารโรงเรียน คือ (๑) ระบบธรรมาภิบาล (๒) โรงเรียนคุณธรรม (๓) โรงเรียนคุณภาพ (๔) ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ (๕) ความเป็นรมณียสถานของโรงเรียน
๓. “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” – การสรรหาครูไทยและการขับเคลื่อนการศึกษาไทยโดยครูรางวัลพระราชทานและเครือข่ายครู” โดย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และคณะ
“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” เป็นรางวัลพระราชทานระดับนานาชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรติครูดีเด่น ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศ ในอาเซียน ๑๑ ประเทศ และติมอร์เลสเต ผู้ทุ่มเทปฏิบัติงานและมีผลงานดีเด่นอันก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อการศึกษาในวงกว้าง แบ่งออกเป็น รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีรางวัลคุณากร รางวัลครูยิ่งคุณ และรางวัลครูขวัญศิษย์ การสรรหาครูผู้สมควรได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เปิดโอกาสให้หลายภาคส่วนเสนอชื่อครูที่สมควรได้รับรางวัลไปยังคณะกรรมการระดับจังหวัดแล้วเสนอส่วนกลางนำสู่คณะกรรมการวิชาการและคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีเป็นผู้พิจารณารอบสุดท้าย
๔. “แนวทางการขับเคลื่อนสถานศึกษาพอเพียงและศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษาอย่างยั่งยืน” โดย ดร.ปรียานุช ธรรมปิยา แนวทางการขับเคลื่อนที่สำคัญ เช่น (๑) จัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง ขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยมีมาตรฐานตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับหลักพอเพียง (พอประมาณ มีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน) เป็นเป้าหมายการเรียนรู้ (๒) การจัดกิจกรรมที่สอดแทรกกิจกรรมในขั้นตอนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดและปฏิบัติตามหลักพอเพียง ตั้งคำถาม และกระตุ้นให้ผู้เรียนคิด-พูด-ทำ อย่างพอเพียง (๓) การฝึกให้ผู้เรียนคิด วางแผน และปฏิบัติ ในสถานการณ์ต่าง ๆ บนหลักพื้นฐาน (ความรู้และคุณธรรม) และหลักแห่งการตัดสินใจ (พอประมาณ มีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี) รวมทั้งหลักสมดุลที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงใน ๔ มิติ (วัตถุ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม)
๕. “การดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” โดยนายพรชัย จุฑามาศ เจ้าหน้าที่งานในพระองค์ (นักวิชาการเกษตร ระดับ ๑๐)
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นโครงการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสืบสานพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ปัจจุบันมีหน่วยงานสนองพระราชดำริฯ ที่ได้รับพระราชานุญาตโดยตรง จำนวน ๒๐๔ หน่วยงาน ประกอบด้วยหน่วยงานระดับกระทรวง กรม และจังหวัดทั้ง ๗๗ จังหวัด มีสถานศึกษาที่เป็นสมาชิกงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน จำนวน กว่า ๕,๔๐๐ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นสมาชิกงานฐานทรัพยากรท้องถิ่นมากกว่า ๔,๐๐ แห่งทั่วประเทศ
๖.“นโยบายการขับเคลื่อนงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” โดย ดร.ปิยรัษฎ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์ เลขานุการคณะกรรมการ อพ.สธ. ปัจจุบัน อพ.สธ. กำลังจัดทำแผนแม่บทระยะ ๕ ปีที่เจ็ด (กันยายน ๒๕๖๔ – ตุลาคม ๒๕๖๙) ซึ่งยังคงดำเนินการภายใต้ “๓ กรอบ ๘ กิจกรรม” คือ กรอบการเรียนรู้ กรอบการใช้ประโยชน์ และกรอบการสร้างจิตสำนึก แผนแม่บทปีที่เจ็ดนี้จะ “เน้นการจัดทำระบบฐานข้อมูลพันธุกรรมพืชและทรัพยากร” เพื่อประโยชน์ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประเด็นปฏิรูปที่ ๔ ความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งนี้ งานสวนพฤษศาสตร์โรงเรียนจะเป็นการสร้างจิตสำนึกให้นักเรียนเห็นคุณค่าของพืชพรรณของท้องถิ่น โดยบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนทั้ง ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยมีกลไกการขับเคลื่อน ได้แก่ (๑) ใช้กลไกศึกษาธิการจังหวัดขับเคลื่อนการดำเนินงานของจังหวัด (๒) ผลักดันให้สถานศึกษาทุกสังกัดสมัครเข้าเป็นสมาชิกงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน (๓) ใช้กลไก กศน. ขับเคลื่อนการดำเนินงานฐานทรัพยากรท้องถิ่นร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ./อบต./เทศบาล ฯลฯ)
สำหรับกิจกรรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มย่อย จัดทำขึ้นเพื่อระดมความคิดเห็นจัดทำแนวทางการขับเคลื่อน การดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น ๔ กลุ่ม ได้แก่
(๑) กลุ่มโครงการอนุรักษ์พันธุกรรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ
(๒) กลุ่มจิตอาสา
(๓) กลุ่มสถานศึกษาพอเพียงและศูนย์การเรียนรู้
และ (๔) สถานศึกษาคุณธรรม
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้เข้าร่วมในกลุ่มที่ ๑ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ซึ่งเน้นการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ที่ประชุมที่ประกอบด้วย ศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการจังหวัด กศน. จังหวัด กศน. อำเภอ สช. และ สกศ. ได้เสนอแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงาน
อย่างกว้างขวาง โดยได้ร่วมกันจัดทำโครงการสนับสนุนการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีกิจกรรมและแนวทางที่สำคัญ เช่น
(๑) กิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจในการขับเคลื่อนการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนแก่ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้รับผิดชอบงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
(๒) การจัดทำโครงการหรือกิจกรรมเพื่อเสนอของบประมาณจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
(๓) กิจกรรมติดตามการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในสถานศึกษา
(๔) การประชาสัมพันธ์ให้สถานศึกษาสมัครเข้าเป็นสมาชิกงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ทั้งนี้ การดำเนินการขับเคลื่อนงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนที่ผ่านมาบางจังหวัดได้จัดทำโครงการเพื่อของบบูรณาการของจังหวัด ทำให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานมีความต่อเนื่องในทางปฏิบัติ
หมายเหตุ ขอขอบคุณรูปภาพจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ร่วมประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ ๑๐ “ทรัพยากรไทย : ชาวบ้านไทยได้ประโยชน์”
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เข้าร่วมประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ ๑๐ ในหัวข้อ “ทรัพยากรไทย : ชาวบ้านไทยได้ประโยชน์” ในฐานะหน่วยงานร่วมสนองพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน - ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เป็นประธานเปิดงานในวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมการประชุมวิชาการและการจัดนิทรรศการและการแสดงผลงานของหน่วยงานร่วมสนองพระราชดำริกว่า ๒๐๐ หน่วยงาน อาทิ การประชุมวิชาการและนิทรรศการงาน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน จำนวน ๓๓ เรื่อง การประชุมวิชาการและนิทรรศการงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น ๑๙ เรื่อง การประชุมวิชาการชมรมคณะปฏิบัติงานวิทยาการ อพ.สธ. กว่า ๑๐๐ เรื่อง นอกจากนั้น ยังมี การนำเสนอนิทรรศการแสดงผลงานของนักวิจัย นิทรรศการ “ใต้ร่มราชมงคล” นิทรรศการของประชาชนเครือข่ายเกษตรกรและปราชญ์ชาวบ้าน รวมถึงนิทรรศการแสดงผลงานของนักวิจัยและนักวิชาการจากหน่วยงานที่ร่วมสนองพระราชดำริอีก ๑๓๖ หน่วยงาน ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้ร่วมจัดนิทรรศการในครั้งนี้ด้วย
นายสำเนา เนื้อทอง ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ กล่าวว่า “สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เข้าร่วมประชุมวิชาการและจัดนิทรรศการในการประชุมและ นิทรรศการ ครั้งที่ ๑๐ นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี และเพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน ครูอาจารย์ ประชาชน ทุกภาคส่วนได้เห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่มีความหลากหลาย ได้เข้ามาเรียนรู้ พัฒนาต่อยอด ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและมีศักยภาพ รวมถึงร่วมกันอนุรักษ์ให้เกิดความยั่งยืน การจัดนิทรรศการครั้งนี้ สำนักงานฯ ได้เผยแพร่ผลงานและองค์ความรู้ของครูภูมิปัญญาไทย รวมถึงมีกิจกรรมฝึกวิชาชีพ ในหัวข้อ “จากเฟื่องฟ้าสู่การสร้างโมเดล ลดปัญหาสังคม” เพื่อถ่ายทอดความรู้ที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติในพื้นถิ่นที่มีความหลากหลาย การนำมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า การแปรรูปเพิ่มมูลค่าของพืชพันธุ์พื้นถิ่นที่สามารถทำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ยา ของใช้ ฯลฯ รวมถึงสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจ โดยมีครูจินดา บุษสระเกษ ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ ๖ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชนและทีมงานเป็นผู้ให้ความรู้”
นิทรรศการ “จากเฟื่องฟ้าสู่การสร้างโมเดลลดปัญหาสังคม” จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน - ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ ประกอบด้วยการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน อาทิ การเรียนรู้พันธุ์พืชในชุมชน แนวคิดเรื่องธนาคารพันธุ์พืช การเพาะปลูกสมุนไพรพื้นบ้าน การเพิ่มมูลค่าสินค้าในชุมชน เช่น การทำลูกประคบ การประดิษฐ์ของเล่นพื้นบ้าน การแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรเป็นอาหาร เครื่องดื่ม หรือของใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ การแปรรูปเส้นหมี่โคราชเพื่อสุขภาพ ได้แก่ ผัดหมี่โคราช ยำหมี่โคราช ฯลฯ การผลิตเครื่องดื่มบำรุงร่างกายจากผลไม้พื้นบ้านจากพืชต่าง ๆ เช่น น้ำลูกหม่อน น้ำมะนาว น้ำมะละกอ การทำขนมพื้นบ้าน ได้แก่ ขนมดอกจอก ขนมฝักบัว ขนมนางเล็ด ขนมชั้น ขนมเปียกปูน การแปรรูปเป็นของใช้ เช่น ยาสระผม น้ำยาล้างจานจากพืชริมรั้ว ได้แก่ อัญชัน ใบเตย ฟักข้าว มะกรูด การทำสบู่สมุนไพรจากดาวอินคาและชาดาวอินคา เป็นต้น
ครูจินดา บุษสระเกษ ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ ๖ กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้มาร่วมจัดนิทรรศการ ทำให้ได้มีโอกาสเผยแพร่องค์ความรู้ ภูมิปัญญาไทย ภูมิใจที่ได้น้อมนำศาสตร์พระราชามาถ่ายทอดสู่การปฏิบัติ ประเทศไทยมีพันธุ์พืชหลากหลาย สามารถนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าได้ ทั้งทำเป็นอาหาร ขนม ยา ของใช้ ของเล่นพื้นบ้าน ฯลฯ ซึ่งสามารถทำให้คนในชุมชนและผู้สนใจมีอาชีพและเพิ่มรายได้ การจัดนิทรรศการครั้งนี้ ตั้งใจจะนำความรู้เกี่ยวกับพืชพื้นถิ่นของจังหวัดมาเผยแพร่ เช่น ผักหวาน ซึ่งแต่เดิมคนอาจยังไม่รู้ว่ามีประโยชน์ แต่ปัจจุบัน สามารถเพาะปลูกจนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของอำเภอ นอกจากนี้ ยังให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกเฟื่องฟ้า ที่ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟู ส่งเสริมการเพาะปลูกจนกลายเป็นพืชที่มีชื่อเสียง และอยู่ในคำขวัญของตำบล ฯลฯ รวมถึงจะเน้นให้รณรงค์เรื่อง การอนุรักษ์พันธุ์พืชพื้นบ้าน ที่กำลังจะสูญหาย โดยส่งเสริม ให้คนในชุมชนเห็นประโยชน์ โดยในงานจะมีการแจกเมล็ด พันธุ์พืชให้ผู้สนใจ เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์พันธุ์พืชและร่วมกันปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชน สำหรับการจัดนิทรรศการของสำนักงานฯ มีผู้สนใจเยี่ยมชมนิทรรศการและฝึกวิชาชีพในกิจกรรมต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันเฉลี่ยประมาณ ๒๒๐ คน รวม ๗ วัน จำนวนประมาณ ๑,๕๐๐ คน ครูจินดายังได้จัดทำใบความรู้ด้านต่าง ๆ แจกให้ผู้สนใจ เช่น ประโยชน์ของพืชสมุนไพร วิธีการทำหมี่โคราช ขนมไทยพื้นบ้าน กินอาหารเป็นยา การทำยาสระผม สบู่สมุนไพร น้ำยาล้างจาน การทำลูกประคบ เป็นต้น เพื่อให้ผู้สนใจมีความเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้ ด้วยตนเอง
ประชุมคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำร ฯ (อพ.สธ. - สกศ.) ครั้งที่ ๑/๖๒ เดินหน้าขับเคลื่อนอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ตลอดปี ๒๕๖๒
วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๒ เลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สุภัทร จำปาทอง) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๒ โดยมีเลขานุการคณะกรรมการ อพ.สธ. (ดร.ปิยรัษฎ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์) รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์) ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และข้าราชการ สกศ. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมภุชงค์ เพ่งศรี อาคาร ๑ ชั้น ๒ สกศ.
สำหรับปีงบประมาณ ๒๕๖๑ สกศ. ได้ดำเนินการสร้างจิตสำนึกและสนับสนุนการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ คือ โครงการถอดบทเรียนสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน จากกรณีศึกษาสวนพฤกษศาสตร์ของโรงเรียนทั้งในกรุงเทพ ฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง รวม ๕ โรงเรียน ได้แก่ ๑) โรงเรียนพิชญศึกษา ๒) โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ ๓) โรงเรียนวัดประชาระบือธรรม ๔) โรงเรียนวัดบุญสัมพันธ์ และ ๕) โรงเรียนปากเกร็ด ทำให้ทราบถึงกระบวนการดำเนินงาน การมีส่วนร่วมระหว่างโรงเรียนและชุมชน รวมถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแก่นักเรียน คณะครู และโรงเรียน ซึ่งสามารถนำการเรียนรู้เรื่องงานสวนพฤกษศาสตร์ดังกล่าวไปบูรณาการร่วมกับสาระการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางให้เกิดประสิทธิภาพ
การประชุมในครั้งนี้มีการทบทวนแผนแม่บทโครงการ อพ.สธ. ระยะ ๕ ปีที่ ๖ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔) ของ สกศ. ให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๒ โดย สกศ. จะเร่งจัดทำฐานข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่นและครูภูมิปัญญาไทย จัดทำเว็บเพจประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการ อพ.สธ. ของ สกศ. รวมถึงจัดพิมพ์หนังสือ “๑๕ ครูภูมิปัญญาไทย ผู้อารักษ์พรรณพืช” และ “สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” โดยคณะกรรมการ ฯ จะจัดประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๒ ต่อไป
ประชุมคณะทำงาน อพ.สธ. – สกศ. ครั้งที่ ๑/๖๒ เร่งบูรณาการ กศจ. ขับเคลื่อนอนุรักษ์พันธุกรรมพืช
วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ รองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ระยะที่ ๕ ปีที่หก ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ โดยเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร.สุภัทร จำปาทอง) ร่วมหารือกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนงาน ณ ห้องภุชงค์ เพ่งศรี อาคาร ๑ ชั้น ๒ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.)
ดร.สุภัทร จำปาทอง กล่าวว่า สกศ. เป็นหน่วยงานเชิงนโยบาย ไม่มีสถานศึกษาในสังกัด แต่สำนักงานพร้อมสนองภารกิจ อพ.สธ. อย่างเต็มความสามารถ และยืนยันไม่ใช่ภาระงานเพิ่มแต่มีโครงการของ สกศ. ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการสนองพระราชดำริฯ ได้ เช่น เอกสาร เว็บไซต์เผยแพร่การดำเนินงาน ฯลฯ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ไปสู่หน่วยจัดการศึกษาต่าง ๆ ร่วมสนองพระราชดำริอย่างกว้างขวาง
ที่ประชุมได้พิจารณาและหารือถึงกรอบแนวทางการขับเคลื่อนงานสนองพระราชดำริ โดยพิจารณาข้อเสนอเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาแผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ ๕ ปีที่หก (๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔) ครอบคลุม ๔ โครงการ/กิจกรรม ได้แก่ ๑) โครงการถอดบทเรียนสวนพฤกษศาสตร์/ศูนย์การเรียนรู้ครูภูมิปัญญาไทย ๒) โครงการจัดทำฐานข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่น/ครูภูมิปัญญาไทย ๓) การจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และ ๔) การจัดทำเว็บเพจ อพ.สธ. - สกศ. และเห็นชอบจัดทำเป็นแผน/โครงการ/กิจกรรม ซึ่งมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมของทุกสำนักฯ ใน สกศ. ซึ่งมีการดำเนินงานสอดคล้องกับงานของ อพ.สธ. และให้สำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ (สมร.) เป็นฝ่ายรวบรวมผลการดำเนินงานและรายงานผลประจำปีตามภารกิจที่ดำเนินการทุกปีงบประมาณ ยกตัวอย่าง เช่น โครงการสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชและทรัพยากรธรรมชาติ
สำหรับแนวคิดสำคัญในการขับเคลื่อนงานคือการบูรณาการเครือข่ายศูนย์การเรียนรู้ครูภูมิปัญญาไทยในทุกภูมิภาค และเครือข่ายสวนพฤกษศาสตร์ในสถานศึกษาต่าง ๆ มาร่วมเผยแพร่การดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม โดย สกศ. พร้อมประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ร่วมขับเคลื่อนงานเพิ่มช่องทางกระตุ้นให้เกิดความตระหนักและเกิดจิตสำนึกการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชและทรัพยากรธรรมชาติผ่านทางเขตพื้นที่การศึกษาประถม/มัธยมศึกษา (สพป./สพม.) สถานศึกษา สถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อีกรูปแบบหนึ่ง มุ่งเน้นกระตุ้นให้เด็ก นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์พันธุ์พืชในท้องถิ่นตนเองอย่างยั่งยืนต่อไป
การประชุมคณะกรรมการ อพ.สธ. และคณะกรรมการอำนวยการจัดการประชุมวิชาการและนิทรรศการ “ทรัพยากรไทย : ชาวบ้านไทยได้ประโยชน์” ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒
วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๒ ผู้แทนสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะหน่วยงานสนองพระราชดำริ เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีและคณะกรรมการอำนวยการจัดการประชุมวิชาการและนิทรรศการ “ทรัพยากรไทย : ชาวบ้านไทยได้ประโยชน์” ณ หอประชุมวทัญญู ณ ถลาง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นการจัดประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ในครั้งนี้มีนายพรชัย จุฑามาศ รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมแทนศาสตราจารย์ ดร.ธีระ สูตะบุตร โดยมีหน่วยงานสนองพระราชดำริจากหลายภาคส่วนเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้มากกว่า ๑๐๐ หน่วยงาน
การประชุมครั้งนี้ที่ประชุมมีการสรุปผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของ อพ.สธ. และหน่วยงานที่ร่วมพระราชดำริ ฯ จำนวน ๒๐๒ หน่วยงาน โดยเลขานุการคณะกรรมการ อพ.สธ. (นางปิยรัษฎ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์) รายงานสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยงานสนองพระราชดำริตามกรอบการดำเนินงานทั้ง ๘ กิจกรรม โดยยกตัวอย่างโครงการในบางหน่วยงาน ได้แก่ กิจกรรมที่ ๑ กิจกรรมปกปักทรัพยากร เช่น โครงการติดตั้งและซ่อมแซมทุ่นเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังและแหล่งหญ้าทะเล (กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) กิจกรรมที่ ๒ กิจกรรมสำรวจเก็บรวบรวมทรัพยากร เช่น โครงการศึกษาสมุนไพรและภูมิปัญญาไทยในเขตจังหวัด (มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์) โครงการรวบรวมข้อมูลภูมิปัญญากลุ่มชาติพันธุ์เพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ยางนาตามภูมิปัญญาอีสาน (มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด) กิจกรรม ที่ ๓ กิจกรรมปลูกรักษาทรัพยากร เช่น โครงการพฤกษานุรักษ์ มเหสักข์ นวมินทรานุสรณ์ (องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้) กิจกรรมที่ ๔ กิจกรรมอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากร เช่น โครงการศึกษาและจัดทำระบบชีวโมเลกุลของอ้อยการค้าและอ้อยป่าในประเทศไทย (สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย) กิจกรรมที่ ๕ กิจกรรมศูนย์ข้อมูลทรัพยากร เช่น งานศูนย์ข้อมูลทรัพยากรด้านพืชและสัตว์ ทรัพยากรท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น (องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์) กิจกรรมที่ ๖ กิจกรรมวางแผนพัฒนาทรัพยากร เช่น โครงการวิจัยและพัฒนาพันธุ์อ้อยที่เหมาะสมในท้องถิ่นของลูกผสมอ้อย (สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย) กิจกรรมที่ ๗ กิจกรรมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร เช่น งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน) กิจกรรมที่ ๘ กิจกรรมพิเศษสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากร เช่น โครงการจัดทำเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์หน่วยงาน (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี)
นอกจากนี้ยังมีการสรุปความก้าวหน้าในการดำเนินงานเตรียมการจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการ “ทรัพยากรไทย : ชาวบ้านไทยได้ประโยชน์” ณ ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ตำบลหนองระเวียง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน – ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ ประกอบด้วยการประชุมวิชาการและนิทรรศการฐานทรัพยากรท้องถิ่น นิทรรศการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน นิทรรศการหน่วยงานร่วมสนองพระราชดำริ นิทรรศการปราชญ์ชาวบ้าน นิทรรศการชาวบ้านไทยได้ประโยชน์ การแสดงศิลปะพื้นบ้าน โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เจ้าภาพได้เตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งสถานที่ หอประชุม ศูนย์อาหาร เรือนนอน ระบบอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจะได้เตรียมเข้าร่วมจัดนิทรรศการในฐานะหน่วยงานสนองพระราชดำริที่จะมีขึ้นต่อไป