สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา

สรุปประเด็นการสนทนารายการรอบรั้วเสมา ช่วงผู้บริหารสนทนา ประเด็น สภาการศึกษามุ่งสานพลังการศึกษา เพื่อการปฏิรูปประเทศ

161 views

ผู้ดำเนินรายการ :			รายการรอบรั้วเสมา ช่วงผู้บริหารสนทนา ได้รับเกียรติจาก ดร. ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ร่วมสนทนาประเด็น “สภาการศึกษามุ่งสานพลังการศึกษา เพื่อการปฏิรูปประเทศ” ทราบมาว่าเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จัดประชุมเรื่อง “สานพลังการศึกษา เพื่อการปฏิรูปประเทศ” โดยมี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ อุดม คชินทร) เป็นประธานการประชุม ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ชั้น ๑ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ขอเรียนถามท่านรองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร. ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์) ถึงประเด็น สาระสำคัญ และผลที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้

รองเลขาธิการสภาการศึกษา :			การประชุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิรูปประเทศที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติให้ความเห็นชอบแล้ว และมอบหมายให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับแผนการปฏิรูปประเทศพิจารณาจัดทำแผนงานหรือโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานของหน่วยงาน และเป็นแผนการดำเนินงานของหน่วยงานในระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕) ให้สอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนการปฏิรูปประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เห็นว่า แผนปฏิรูปประเทศทั้ง ๑๑ ด้าน ความเกี่ยวข้องกับการศึกษาในหลายมิติ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับหน่วยงานทางการศึกษา สกศ. จึงได้เชิญผู้บริหารและผู้รับผิดชอบด้านนโยบายและแผนของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค อาทิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการจังหวัด รวมถึงผู้บริหารสถาบันการศึกษา จำนวน ๑,๒๐๐ คน มาประชุมร่วมกันเพื่อรับทราบทิศทางการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษา เพื่อสามารถนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำแผนการดำเนินงานของหน่วยงานต่อไป การประชุมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ อุดม คชินทร) เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “สานพลังการศึกษา เพื่อการปฏิรูปประเทศ” นอกจากนี้มีการบรรยายทิศทางการปฏิรูปประเทศที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน ได้อาทิ ดร. กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ บรรยายเรื่อง “ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์” ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ จรัส สุวรรณเวลา บรรยายเรื่อง “ทิศทางการปฏิรูปการศึกษา” และคุณดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ บรรยายเรื่อง “แผนการปฏิรูปประเทศ”

ผู้ดำเนินรายการ :			รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ อุดม คชินทร) ให้มุมมอง แง่คิด หรือทิศทางในการปฏิรูปการศึกษาอย่างไร

รองเลขาธิการสภาการศึกษา :			ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ย้ำว่าทุกภาคส่วนต้องเห็นทิศทางและมีเป้าหมายร่วมกันการปฏิรูปการศึกษาจึงจะประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้จากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้กำหนดเป้าหมายเพื่อให้คนไทยมีความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต และให้เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษาภาคบังคับระยะเวลา ๑๒ ปี นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการมีแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๒ แผนดังกล่าวย้ำเป้าหมายให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทำให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามกระทรวงศึกษาธิการต้องเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ควบคุมมาตรฐานคุณภาพและดูแลงบประมาณ โดยใช้กลไกประชารัฐร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยในพื้นที่ควรเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้การปฏิรูปการศึกษา เนื่องจากเป็นแหล่งรวมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและงานวิจัยที่สามารถสร้างนวัตกรรมพัฒนาประเทศ

ผู้ดำเนินรายการ :			วิทยากรท่านอื่น ๆ อาทิ ดร. กฤษณพงศ์ กีรติกร และศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ จรัส สุวรรณเวลา ได้ให้แนวทางที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษาอย่างไรบ้าง

รองเลขาธิการสภาการศึกษา :			ในภาพรวมวิทยากรกล่าวถึงปัญหาและจุดด้อยของการศึกษาที่ส่งผลให้ไทยไม่สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ โดย ดร. กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ กล่าวว่า การวางรากฐานการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์จำเป็นต้องผสานความร่วมมือกันในหลายกระทรวง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคนทั้งกาย ใจ สติปัญญา และสิ่งแวดล้อม ด้วย ๗ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ๑) ปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม ๒) พัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ๓) ปฏิรูปการเรียนรู้แบบพลิกโฉม ๔) ตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย ๕) เสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี ทั้งกาย ใจ สติปัญญา และสังคม ๖) สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ และ ๗) เสริมสร้างศักยภาพการกีฬาในการสร้างคุณค่าทางสังคมและพัฒนาประเทศ ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) กล่าวโดยสรุปว่า ปัญหาการศึกษาไทยเกิดจากหลายหน่วยงานไม่ตระหนักและไม่เห็นความสำคัญทำให้ขาดการมีส่วนร่วม การปฏิรูปการศึกษาครั้งนี้ภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคปฏิบัติ และภาควิชาการต้องร่วมกันปฏิรูปโดยให้ความสำคัญกับผู้เรียน เพิ่มการพัฒนาครู พัฒนาหลักสูตร และใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อให้ครูและนักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลและสามารถฝึกฝนเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ของ กอปศ. พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เชื่อว่า หากแนวทางและกฎหมายที่สืบเนื่องจากการปฏิรูปการศึกษาประกาศใช้ จะช่วยลดทอนอุปสรรคและส่งเสริมการศึกษาไทยให้มีคุณภาพและสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ในอนาคต

ผู้ดำเนินรายการ :			หน่วยงานทางการศึกษาทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ควรปรับทิศทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างไร เพื่อผลักดันให้ปฏิรูปประเทศบรรลุผลตามเป้าหมาย

รองเลขาธิการสภาการศึกษา :			หน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับปฏิบัติ จำเป็นต้องปรับกระบวนการตามพระราชบัญญัติ แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่กำหนดให้ส่วนราชการต้องแจ้งแผนปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศมายังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลแผนปฏิรูปประเทศทั้ง ๑๑ ด้าน ได้รับทราบผ่านระบบสารสนเทศที่ใช้ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานในการขับเคลื่อนการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศที่ชื่อว่า ระบบ eMENSCR (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and Country Reform) หากไม่แจ้งผลตามข้อกำหนด หัวหน้าส่วนราชการจะต้องรายงานปัญหาอุปสรรคต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ คณะรัฐมนตรี รัฐสภา หรือหัวหน้าหน่วยงานที่กำกับดูแล รับทราบเพื่อพิจารณาระบบการทำงานและศักยภาพของบุคลากรในหน่วยงานดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลเชื่อว่า แนวทางนี้จะช่วยควบคุมให้ส่วนราชการร่วมมือกันปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังจนประสบความสำเร็จ

ผู้ดำเนินรายการ :			สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาในฐานะหน่วยงานที่จัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ มีแนวทางติดตามการขับเคลื่อนแผนการศึกษาแห่งชาติสู่การปฏิบัติของหน่วยงานต่าง ๆ อย่างไร

รองเลขาธิการสภาการศึกษา :			สิ่งที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาดำเนินการในตอนนี้ ถือเป็นการเปิดประเด็นสร้างความรับรู้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศ โดยเชื่อมโยงการทำงานกับสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการในการชี้แจงหน่วยงานในระดับจังหวัด โดยเฉพาะศึกษาธิการจังหวัดให้นำแนวทางที่ได้ไปประสานหน่วยงานในความรับผิดชอบ เพื่อปรับแผนการทำงานให้สอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศ นอกจากนี้ ยังได้แจ้งทิศทางการศึกษาดังกล่าวให้หน่วยงานหลักของกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานภายใต้สังกัดดังกล่าวต่อไป

ผู้ดำเนินรายการ :			สุดท้ายนี้ ขอให้ท่านรองเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร. ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์) ฝากอะไรถึงผู้รับฟังรายการรอบรั้วเสมา

รองเลขาธิการสภาการศึกษา :			สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาขอเชิญชวนหน่วยงานราชการและประชาชนทั่วไปที่สนใจศึกษาข้อมูลเพื่อเติมเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา และแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) สามารถค้นคว้าได้จากเอกสารข้อมูล สื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์ และอินโฟกราฟฟิค ทางเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา www.onec.go.th รวมถึงให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาได้ที่ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ๙๙/๒๐ ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ และ Facebook Fanpage “เด็กไทยในฝัน โดยสภาการศึกษา”

ผู้ดำเนินรายการ :			สำหรับวันนี้ขอขอบพระคุณ ดร. ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ที่มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ท่านผู้ฟังรายการรอบรั้วเสมา
			......................................................................................