สกศ. จัดประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ครั้งที่ ๑๖/ ๒๕๖๑ ถกเรื่องการจัดสรรงบประมาณ
วันนี้ (๑๗ เมษายน ๒๕๖๑) ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา และนายเฉลิมชนม์ แน่นหนา ที่ปรึกษาด้านระบบการศึกษา พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ครั้งที่ ๑๖/๒๕๖๑ โดยมี ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมสิปปนนท์ เกตุทัต อาคาร ๒ ชั้น ๒ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การประชุมวันนี้ที่ประชุมได้หารือเรื่อง “โครงสร้างและแนวทางการจัดสรรงบประมาณการศึกษาขั้นพื้นฐานจากส่วนกลางไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา” โดยมี รองศาสตราจารย์ชัยยุทธ ปัญญสวัสดิ์สุทธิ์ กรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เป็นผู้นำเสนอรายงาน ประเด็นดังกล่าวจะนำไปสู่การปฏิรูป เช่น ระบบข้อมูล ซึ่งข้อมูลในปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอในการวางนโยบายหรือการบริหารจัดการ นอกจากข้อมูลเชิงปริมาณ ต้องมีข้อมูลเชิงคุณภาพ ต้องมีการปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาบนฐานข้อมูล มีการวางกฎเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติในการจัดสรรงบประมาณ รวมถึงการป้อนกลับในการใช้งบประมาณให้เหมาะสม เช่น ปฏิรูประบบบัญชีของโรงเรียน ขณะนี้ยังมีโรงเรียนจำนวนน้อยที่ทำบัญชีได้ดี นอกจากนี้เรื่องการเพิ่มวิทยฐานะของครูและผู้บริหารสถานศึกษาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น จึงต้องทำให้การเพิ่มวิทยฐานะสอดคล้องกับการทำให้คุณภาพการศึกษาเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือ รัฐธรรมนูญ มีมาตราที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณหรือทรัพยากร เช่น มาตรา ๕๘ ที่ต้องระดมทุนจากทุกภาคส่วน ดังนั้นเรื่องงบประมาณต่อไปจึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ อีกประการ การจัดสรรงบการศึกษาให้กับภาคการศึกษา ต้องไม่จัดสรรแบบหารเฉลี่ยแต่ต้องจัดสรรอย่างเป็นธรรม ซึ่งรัฐธรรมนูญได้กล่าวถึงสูตรการจัดสรรงบประมาณ เช่น ต้องได้รับเงินอุดหนุนรายหัวหรือค่าใช้จ่ายพื้นฐานเท่าเทียมกัน และต้องจัดสรรให้ผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ เช่น พิการ ยากลำบากหรือมีความสามารถพิเศษ นอกจากนี้ยังต้องจัดสรรให้โรงเรียนทั้งงบดำเนินการและงบลงทุน และต้องคำนึงถึงคุณภาพและความเสมอภาค ทิศทางในการจัดสรรงบประมาณคือ ให้เป็นธรรม และให้มีการระดมทุนจากทุกภาคส่วนอย่างเสมอภาค
ด้าน รองศาสตราจารย์ชัยยุทธ ปัญญสวัสดิ์สุทธิ์ กล่าวโดยสรุปว่า โครงสร้างรายจ่ายงบประมาณที่ สพฐ. ใช้ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นงบประมาณที่มีจำนวนสูง รายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างของรายจ่าย ต้นทุนของระบบ ประเด็นหลัก คือการจัดการศึกษามีต้นทุนสูง งบประมาณส่วนใหญ่ สามในสี่เป็นเรื่องบุคลากร อีกส่วนจะเป็นงบอุดหนุนในการดำเนินงานด้านการศึกษาต่าง ๆ ปัจจุบันมีนโยบายผลักดันให้ครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง เพื่อให้คนที่มีความสามารถมาเป็นครู ปัจจุบันมีครูที่เป็นชำนาญการ ชำนาญการพิเศษมีสัดส่วนสามในสี่ สังคมคาดหวังกับครู ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน จึงควรคิดว่า ระบบที่เป็นอยู่ ค่าใช้จ่ายที่สังคมคาดหวังกับคุณภาพที่เกิดขึ้นเป็นไปในทิศทางที่เหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้ เรื่องระบบการจัดทำข้อมูลสถานศึกษา การเก็บรายรับรายจ่ายสถานศึกษาพบว่า มีรายจ่ายแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนขนาดกลาง โรงเรียนขนาดใหญ่ ซึ่งโรงเรียนขนาดเล็กจะมีต้นทุนต่อหน่วยสูง นอกจากนี้บัญชีรายรับรายจ่ายของโรงเรียนมีที่มาของทรัพยากรหลายด้าน นอกเหนือจากงบประมาณของรัฐ ยังมีมาจากท้องถิ่นและผู้ปกครอง รวมถึงการหารายได้ของสถานศึกษาเอง อีกประการคือ ปัจจุบันการจัดสรรอาจยังไม่ทันสมัย เช่น ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคปัจจุบันสูงขึ้นมากกว่างบประมาณที่เคยได้รับจัดสรรไว้ ด้วยเหตุนี้จึงควรมีการทบทวนเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้ตรงตามข้อมูลปัจจุบัน ให้มีความคุ้มค่า และมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น