ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า สกศ. ในฐานะเลขานุการ กอปศ. จัดการประชุมครั้งนี้ขึ้น เพื่อระดมความคิดเห็นในการยกร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ จากผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย จำนวน ๒๐๐ คน ใน ๕ ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ๑) การศึกษาเพื่อการพัฒนาทักษะการดำรงชีวิต ๒) การศึกษาตามอัธยาศัย ๓) การศึกษาทางเลือก ๔) การวัดผลและประเมินผลการจัดการศึกษา และ ๕) การสร้างความเข้มแข็งให้สถานศึกษา โดย สกศ. จะสรุปสาระสำคัญเสนอต่อ กอปศ. เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวต่อไป

         รองศาสตราจารย์ ดร. ดารณี อุทัยรัตนกิจ รองประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา กล่าวปาฐกถาเรื่อง การปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้แต่งตั้ง กอปศ. โดยอาศัยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ให้มีหน้าที่ศึกษาและเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาทั้งด้านเด็กเล็ก ด้านครูอาจารย์ ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านโครงสร้างของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการจัดตั้งกองทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน กอปศ. ได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อเป็นแนวทางการจัดทำร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว มีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ อาทิ การสร้างคุณธรรมจริยธรรม การจัดหลักสูตรฐานสมรรถนะ และการให้อิสระในการบริหารจัดการของโรงเรียน กอปศ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประชุมในครั้งนี้ จะได้รับฟังข้อเสนอที่เป็นประโยชน์เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทยให้เป็นพลังสำคัญในการสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศในเวทีโลกต่อไป

         รองศาสตราจารย์ นายแพทย์จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ประธานอนุกรรมการเฉพาะกิจศึกษาแนวทางการจัดทำพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ กล่าวปาฐกถาเรื่อง แนวทางการร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ ตอนหนึ่งว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ มุ่งเน้นการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตของประเทศ มีความคล่องตัวที่จะรองรับความหลากหลายของการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับประเด็นในการประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรอบแนวคิดสำคัญของร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ใน ๓ ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การสร้างการบริหารจัดการที่เป็นระบบสำหรับการศึกษาเพื่อการดำรงชีวิตและการศึกษาตามอัธยาศัย การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษา และกลไกทางนโยบายที่สามารถทบทวนและชี้นำทิศทางการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งนี้ คาดว่า ร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ จะเสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายน ๒๕๖๑ 

     ในการประชุมเชิงปฏิบัติการได้แบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นประเด็นยกร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ เป็น ๕ กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ ๑ เรื่อง การศึกษาเพื่อการพัฒนาทักษะการดำรงชีวิต โดยมี นายอรรถการ  ตฤษณารังสี รองประธานคณะกรรมการการศึกษา หอการค้าไทย เป็นวิทยากรนำอภิปราย แนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาทักษะการดำรงชีวิต   กลุ่มที่ ๒ เรื่อง การศึกษาตามอัธยาศัย  โดยมี ดร.ชัยยศ  อิ่มสุวรรณ์  รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นวิทยากร นำอภิปราย แนวทางการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย  กลุ่มที่ ๓ เรื่อง การศึกษาทางเลือก โดยมี นายมานิตย์ คณะโต นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และนายวีระ พลอยครบุรี อดีตผู้อำนวยการ สำนักวิจัยและพัฒนาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นวิทยากรนำอภิปราย แนวทางการจัดการศึกษาทางเลือก กลุ่มที่ ๔ เรื่อง การวัดและประเมินผลการจัดการศึกษา โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สมหวัง  พิธิยานุวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการประเมินผลการศึกษา เป็นวิทยากรนำอภิปราย แนวทางการวัดและประเมินผลการจัดการศึกษา และ กลุ่มที่ ๕ เรื่อง การสร้างความเข้มแข็งให้สถานศึกษา โดย นายวินัย รอดจ่าย อดีตรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ ดร.ปรเมษฐ์ โมลี ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นวิทยากรนำอภิปราย แนวทางการสร้างความเข้มแข็งให้สถานศึกษา