ประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ครั้งที่ ๘/๒๕๖๐
เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จัดประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ครั้งที่ ๘/๒๕๖๐ โดยมี ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา เป็นประธานการประชุม ดร. กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา ดร. สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ดร. ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา นายเฉลิมชนม์ แน่นหนา ที่ปรึกษาด้านระบบการศึกษา เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสิปปนนท์ เกตุทัต
ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา กล่าวโดยสรุปว่า คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาได้ร่วมรับฟังความคิดเห็นและประสบการณ์จากที่ต่างๆ ซึ่งวันนี้คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ได้นำเสนอโครงการโรงเรียนประชารัฐให้ที่ประชุมรับทราบ โครงการประชารัฐถือเป็นโครงการที่เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนที่มาช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ เอกชนนำประสบการณ์ในการบริหารจัดการ เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพัฒนาโรงเรียน นำบุคลากรรุ่นใหม่ของบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารมาร่วมคิดพัฒนาโรงเรียนกับผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นการช่วยพัฒนาโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนดิจิตอล โดยขั้นต้นมีการสนับสนุนวางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีการอบรมบุคลากร และสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน การจะทำให้โครงการเช่นนี้อยู่ยั่งยืนต้องสร้างจิตสาธารณะ คนในชุมชนมีบทบาทในการช่วยเหลือพัฒนาโรงเรียน ปัญหาปัจจุบันของการศึกษา คือ คุณภาพการศึกษา ความเหลื่อมล้ำ สังคมต้องมีบทบาทในการส่งเสริมและลงทุนการศึกษาด้วย อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่สามารถช่วยตนเองได้ก็ยังเป็นบทบาทหน้าที่ที่รัฐยังต้องช่วยเหลือ ความเสมอภาคไม่ใช่ทุกอย่างทุกคนต้องได้เหมือนกันหมด แต่คือสิ่งพื้นฐานที่ทุกคนพึ่งได้ นอกจากนี้วันนี้ที่ประชุมยังได้ร่วมพิจารณาแผนการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นและสื่อสารสังคมที่จะมีการรับฟังความคิดเห็น ๔ ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ทั้งยังแจ้งว่าพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีได้นัดหมายให้คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะเห็นความสำคัญของการศึกษา
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นำเสนอโครงการโรงเรียนประชารัฐ เป็นโครงการร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน มีเจตจำนงในการแก้ปัญหา ในเรื่องลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคุณภาพของคน และเพิ่มขีดศักยภาพในการแข่งขัน มีภารกิจในการสร้างเยาวชนที่สามารถดึงศักยภาพของตนออกมาให้สามารถเป็นทั้งคนดีและคนเก่ง ซึ่งขณะนี้มีความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ๑๒ แห่ง นำผู้นำรุ่นใหม่ที่สมัครใจทั้ง ๑๒ องค์กร ร่วมคิดร่วมวางแผนการพัฒนาร่วมกับโรงเรียน โดยมี ๑๐ ยุทธศาสตร์ ที่ใช้ในการยกระดับและพัฒนาการจัดการศึกษาไทยตามมาตรฐานสากล เช่น มีการกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน มีการพัฒนาระบบดิจิตอล วางโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการสร้างผู้นำ พัฒนาบุคลากร ให้ทุนในการฝึกงาน ส่งเสริมภาษาอังกฤษ ฯลฯ โรงเรียนสามารถเสนอโครงการพัฒนาโรงเรียนและหากผ่านการพิจารณาก็จะได้เงินทุนในการสนับสนุนทำโครงการ ขณะนี้โครงการดำเนินการมาได้ ๑ปี มีโรงเรียนในโครงการแล้ว ๓,๓๔๒ โรง แต่เป้าหมายคือ จะดำเนินการให้ครบทุกตำบลทั่วประเทศ ๗,๒๔๒ โรง
สิ่งที่กำลังจะขับเคลื่อนต่อไปซึ่งจะเป็นปัจจัยความสำเร็จ คือ การบริหารข้อมูลนักเรียน เพื่อให้ทราบสภาพภาพความเป็นอยู่ของนักเรียน ต้องมีการเก็บข้อมูลต่อเนื่อง ทั้งนี้ ต้องสร้างการมีส่วนร่วมของผู้นำชุมชน วัด นักเรียนได้เรียนรู้จากผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้ปฏิบัติจริง โรงเรียนมีส่วนแก้ปัญหาของชุมชน มีการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจ ความต้องการในชุมชน และขยายผลโดยดึงภาคสังคมระดับท้องถิ่นมาร่วมกับโรงเรียนมากขึ้น ส่งเสริมสร้างผู้นำ รวมทั้งสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้ของโรงเรียนและชุมชน