สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา

สรุปประเด็นการสนทนารายการรอบรั้วเสมา ช่วงผู้บริหารสนทนา ประเด็น ทิศทางการดำเนินงานสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาในอนาคต

460 views

สรุปประเด็นการสนทนารายการรอบรั้วเสมา ช่วงผู้บริหารสนทนา สถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz และ AM 1161 KHz ประเด็นเรื่อง ทิศทางการดำเนินงานสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาในอนาคต วันศุกร์ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๙ เวลา ๐๘.๓๐ – ๐๘.๔๕ น. โดย ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา

ประเด็นสนทนา

ผู้ดำเนินรายการ:			รายการรอบรั้วเสมา ช่วงผู้บริหารสนทนาวันนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา สนทนาประเด็น “ทิศทางการดำเนินงานสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาในอนาคต” ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาในฐานะหน่วยงานหลักด้านแผน นโยบาย มาตรฐานการศึกษา ก่อนอื่นขอเรียนถามท่านรองเลขาธิการสภาการศึกษาถึงผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาตลอดปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา มีผลงานอย่างไรบ้าง

รองเลขาธิการสภาการศึกษา:			งานสำคัญ ๆ ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษากำลังดำเนินการ ได้แก่ การจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ เนื่องจาก สกศ. มีหน้าที่เสนอแผนการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งแผนเดิมจะหมดวาระในเดือนกันยายน ๒๕๕๙ สกศ. ได้เตรียมการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ โดยดำเนินการศึกษาวิจัย ทั้งในประเทศ และนานาชาติ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ร่างแผนการศึกษาแห่งชาติที่เกือบจะสมบูรณ์แล้ว และวันนี้ (๒๓ กันยายน ๒๕๕๙) จะมีการสรุปกับองค์กรหลัก โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นประธาน การประเมินผลการจัดการศึกษาเรื่องการแข่งขันในเวทีนานาชาติ การจัดทำมาตรฐานการศึกษา สมรรถนะเด็กปฐมวัยไทย การจัดตั้งเครือข่ายสมัชชาการศึกษาจังหวัด เพื่อรวมพลังคนในพื้นที่ให้มีส่วนร่วม และพัฒนาการศึกษาในระดับพื้นที่ ฯลฯ

ผู้ดำเนินรายการ:			การจัดตั้งเครือข่ายสมัชชาการศึกษาเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ใช่หรือไม่ และจะมีการจัดสัมมนาเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

รองเลขาธิการสภาการศึกษา:			คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) จะเป็นในลักษณะโครงสร้างโดยมีกฎหมาย ซึ่งการบริหารจะคู่ขนานกับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการแก้ปัญหาเรื่องการบริหารงานบุคคล ในส่วนของสมัชชาการศึกษาจังหวัดเป็นการรวมภาคเอกชน ภาคประชารัฐ มาร่วมกันคิด เป็นกลไกอิสระ ไม่เป็นองค์กรที่จัดตั้งโดยกฎหมายมารองรับ เป็นเพียงการรวมพลังกันเท่านั้น

ผู้ดำเนินรายการ:			ทิศทางการจัดการศึกษาในอนาคตจะเป็นไปในทิศทางใด บางครั้งอาจได้ยินข่าวเกี่ยวกับการศึกษาว่าการศึกษาไทยยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร เมื่อไปแข่งขันในระดับสากล บางครั้งได้คะแนนไม่สูง สกศ. มีแนวโน้มหรือทิศทางจัดการ หรือแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร

รองเลขาธิการสภาการศึกษา:			ในเรื่องนี้จะต้องตระหนักเป็นพิเศษ โดยต้องไปพิจารณาถึงตัวชี้วัดที่สถาบันระดับนานาชาติชี้ประเด็นว่ามีอะไรที่ยังบกพร่อง หรือยังต้องแก้ไข เช่น ผลคะแนน PISA ถ้าดูในภาพรวมอาจมองว่าคะแนนยังไม่เป็นไปตามคาดหวัง แต่ถ้าพิจารณาในรายละเอียดพบว่า มีโรงเรียนบางแห่งมีคะแนนสูงมาก แต่เมื่อนำไปเฉลี่ยกับโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล หรือโรงเรียนขนาดเล็ก ทำให้คะแนนที่ได้ไม่ตรงตามเป้าหมาย ถึงอย่างไรก็ตาม ในแผนการศึกษาแห่งชาติที่ สกศ. กำลังดำเนินการจัดทำอยู่นั้น จะมาพิจารณาว่ามีประเด็นใดที่จะต้องปรับ เช่น เรื่องการบริหารโรงเรียนขนาดเล็กให้มีประสิทธิภาพ เรื่องการพัฒนาครูให้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการคิดวิเคราะห์ การทำให้นักเรียนมีพัฒนาการให้มากขึ้น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นกลไกที่ สกศ. ได้ดำเนินการจัดทำร่วมกับหลายหน่วยงาน

ผู้ดำเนินรายการ:			ในส่วนของบุคลากร หรือนักวิชาการ ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างไร เพื่อที่จะก้าวเข้าสู่ยุคประเทศไทยแลนด์ ๔.๐

รองเลขาธิการสภาการศึกษา:			สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้เตรียมพัฒนาบุคลากร ทักษะในด้านภาษา ทักษะในการศึกษาวิจัยนโยบายต่าง ๆ โดยได้ยกระดับบุคลากรให้เข้ามาร่วมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระดับนานาชาติด้วย เช่น การประชุมเครือข่ายการวิจัยทางการศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ – จีน ครั้งที่ ๓ (The Third Southeast Asia – China Education Research Meeting : SEA – CERN) การประชุมโต๊ะกลมไทย-สหรัฐฯ ครั้งที่ ๗ เรื่อง “สะเต็มศึกษา : วัฒนธรรมการเรียนรู้สำหรับกำลังคนในศตวรรษที่ ๒๑” (STEM Education: Learning Culture of the 21st C Workforce) ฯลฯ ในการประชุมต่าง ๆ ทำให้บุคลากรใน สกศ. ได้ประสบการณ์เรียนรู้ และสามารถพัฒนาตนเอง

ผู้ดำเนินรายการ:			ช่วงนี้เป็นช่วงสิ้นงบประมาณ ๒๕๕๙ มีการรายงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงทิศทางในอนาคตของ สกศ. ได้มีการกำหนดหรือมอบนโยบายอะไร อย่างไร

รองเลขาธิการสภาการศึกษา:			ท่านเลขาธิการสภาการศึกษา (ดร. กมล รอดคล้าย) ได้ให้แนวทางการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาในปีหน้า ประเด็นที่สำคัญ เช่น เรื่องการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ปีหน้าจะเป็นการขับเคลื่อนแผนการศึกษาแห่งชาติสู่การปฏิบัติ โดยให้เห็นเป็นรูปธรรม ประเด็นรัฐธรรมนูญเมื่อมีการประกาศใช้ จะมีผลต่อการจัดการศึกษาอย่างมาก ซึ่งในระยะเร่งด่วนคือการปรับแก้กฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายการศึกษา ที่เรียกว่า พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หรือ พรบ. ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จะต้องสอดรับกับแนวทาง หรือทิศทางของรัฐธรรมนูญ และยุทธศาสตร์ประเทศ ๒๐ ปี ในประเด็นไทยแลนด์ ๔.๐ มีโครงการที่จะสร้างกลไกเหล่านี้ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ซึ่งนำรายละเอียด หรือประเด็นหลัก ๆ ไปใช้เป็นกรอบในแผนการศึกษาแห่งชาติ ที่เรียกว่ายุทธศาสตร์แผนการศึกษาแห่งชาติ กลไกในการขับเคลื่อนจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วม ยุทธศาสตร์แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับนี้จะมีการเชื่อมโยงกับการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจว่าสิ่งที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์แผนการศึกษาแห่งชาติได้รับการดำเนินการ โดยมีความเชื่อมโยงกับงบประมาณในปีถัดไป

			อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นนโยบายของท่านเลขาธิการสภาการศึกษาโดยตรง คือ ประเทศไทยมีคนเก่งจำนวนมาก เรียกว่าเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษแต่ละด้าน เช่น ด้านกีฬา ด้านศิลปะ ด้านดนตรี ด้านคณิตศาตร์ด้านวิทยศาสตร์ เป็นต้น และยังไม่มีหน่วยงานใดที่เป็นศูนย์รวมบุคคลเหล่านี้เพื่อที่จะขับเคลื่อน ซึ่งท่านเลขาธิการสภาการศึกษามองว่าควรมีศูนย์การพัฒนาเด็กที่มีความสามารถพิเศษเหล่านี้ให้มีความชัดเจน ซึ่งต้องการทำเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรม อย่างน้อยจะต้องเป็นศูนย์เรียกว่า ศูนย์ที่รวบรวมข้อมูลคนที่มีความสามารถพิเศษในด้านต่าง ๆ ทั่วประเทศ และมีกลไกเชื่อมโยงกับหน่วยงานในการพัฒนาบุคคลเหล่านี้ให้เป็นผู้นำในด้านที่แต่ละคนมีความพิเศษ ส่วนประเด็นการแก้กฎหมายโดยเฉพาะกฎหมายที่มีความสอดรับกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งใน ๒ - ๓ เรื่องหลัก จะเริ่มทำในงบประมาณปีหน้าเพื่อจะได้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ผู้ดำเนินรายการ:			ศูนย์พัฒนาผู้ที่มีความสามารถพิเศษ และ ศูนย์ OEC Data Center ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจะเปิดตัว มีความแตกต่างกันอย่างไร

รองเลขาธิการสภาการศึกษา:			สำหรับ ศูนย์ OEC Data Center จะเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านวิจัย ด้านพัฒนา ข้อมูลต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นห้องสมุดอีเล็กทรอนิกส์ หมายความว่า คนประเทศนี้อยากรู้อะไรที่เกี่ยวกับการศึกษาทั่วโลกจะต้องมาศูนย์นี้ หรืออาจจะเข้าระบบ application ที่สามารถเชื่อมโยง กันได้ ฉะนั้นศูนย์นี้จะเป็นศูนย์ที่รวบรวมข้อมูลองค์ความรู้ต่าง ๆ ทั้งทางด้านวิจัยและด้านนวัตกรรม ที่สามารถนำสู่ไทยแลนด์ ๔.๐

			แต่ศูนย์ผู้มีความสามารถพิเศษ เป็นศูนย์ที่กำลังจะดำเนินการจัดตั้งขึ้นใหม่ ข้อมูลเพียงเฉพาะเรื่องคนที่มีความสามารถพิเศษ มีอยู่ ๓ ส่วน ได้แก่ ฐานที่ ๑ ศูนย์นี้จะรวบรวมว่าใครอยู่ไหน โดยจะรวบรวมเป็นฐาน ฐานที่ ๒ ศูนย์นี้จะเป็นการรวบรวมองค์ความรู้ทั่วโลกว่าคนที่มีความสามารถพิเศษจากทั่วโลกได้มีการดำเนินงานอย่างไร ฐานที่ ๓ ศูนย์ที่มีกิจกรรมส่งเสริมโดยมีการร่วมมือกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยต่าง ๆ สามารถพัฒนาบุคคลเหล่านี้ไปสู่เป้าหมายได้

ผู้ดำเนินรายการ:			ทั้ง ๒ ศูนย์ ได้มีการดำเนินการไปมากน้อยแค่ไหน

รองเลขาธิการสภาการศึกษา:			ศูนย์ OEC Data Center ดำเนินการใกล้เสร็จแล้ว ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานจะเรียบร้อยภายในเดือนหน้า จะมีการเชื่อมกับระบบข้อมูลของทั่วโลก ในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับห้องสมุดต่าง ๆ ในอดีตที่ผ่านมา นักวิชาการจะทำวิจัยต่าง ๆ จะมาค้นคว้าข้อมูลเพื่อศึกษาที่ สกศ. ตอนนี้เราจึงได้สร้างศูนย์เหล่านี้ขึ้น

			ส่วนศูนย์การศึกษาผู้มีความสามารถพิเศษ สกศ. กำลังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และคาดว่าภายในเดือนเมษายน ๒๕๖๐ จะจัดทำค่ายผู้มีความสามารถพิเศษ เพื่อเป็นกลไกการทดลอง และการวิจัยไปในตัว เพื่อที่จะได้ข้อมูลต่าง ๆ มานำเสนอ และเป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการต่อไป

ผู้ดำเนินรายการ:			เรื่องศูนย์ผู้ที่มีความสามารถพิเศษ สกศ. จะเป็นหน่วยการประสานงานใช่หรือไม่

รองเลขาธิการสภาการศึกษา:			ใช่ครับ สกศ. จะเป็นผู้ประสานงาน และรวบรวมข้อมูล โดยมีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ในเบื้องต้นจะเน้น ๓ ด้าน คือ ๑) ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ร่วมกับโครงการสะเต็มศึกษา ๒) ด้านศิลปะและกีฬา ร่วมกับมหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ ๓) ด้านดนตรี โดยทั้งหมดนี้เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ได้พัฒนาทักษะและจะได้เป็นพลังในการพัฒนาประเทศชาติ

ผู้ดำเนินรายการ:			ถือว่าเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามต่อในอนาคตเพื่อให้ทิศทางการศึกษาก้าวหน้าต่อไปอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในวันนี้ขอขอบพระคุณท่าน ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษาที่เข้ามาร่วมสนทนาในรายการรอบรั้วเสมา ขอบคุณครับ